Chalermkiat Mina

วันเสาร์, มิถุนายน 17, 2566

มินามีเรื่องเล่า พระปรางค์องค์ใหญ่ วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร Thai-English-French





มินามีเรื่องเล่า พระปรางค์องค์ใหญ่ วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร Thai-English-French

สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพามานมัสการสักการะพระเจดีย์ที่วัดระฆังโฆษิตาราม วรมหาวิหาร นะครับ

บริเวณด้านของพระอุโบสถของวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร หน้าเยื้องไปทางขวาเล็กน้อย มีพระปรางค์องค์ใหญ่ และบริเวณทางด้านซ้ายของพระอุโบสถมีพระเจดีย์อีก ๓ องค์

          วันนี้ขอสักการะและแนะนำพระปรางค์องค์ใหญ่องค์นี้นะครับ

          พระปรางค์องค์นี้สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมรัตนโกสินทร์ยุคต้น ถือเป็นพระปรางค์ที่มีทรวดทรงงดงามมาก จนยึดถือเป็นแบบฉบับของพระปรางค์ที่สร้างในยุคต่อมา

          สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ทรงยกย่องว่า พระปรางค์วัดระฆังนี้เป็นพระปรางค์ที่ทำถูกแบบอยุธยาองค์เดียวในกรุงรัตนโกสินทร์

          ผู้สร้างพระปรางค์องค์นี้เป็นใครครับ

          พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงมีพระราชศรัทธาสร้างพระปรางค์พระราชทานร่วมกุศลกับสมเด็จพระพี่นางองค์ใหญ่ของพระองค์ คือ สมเด็จเจ้าฟ้าหญิง กรมพระยาเทพสุดาวดี พระนามเดิมคือ สา นะครับ

          กล่าวได้ว่า พระปรางค์วัดระฆังเป็นพระปรางค์กรมพระยาเทพสุดาวดี (สา) นะครับ

          สมเด็จเจ้าฟ้าหญิง กรมพระยาเทพสุดาวดี (สา) เป็นพระพี่นางของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก

ขออนุญาตกล่าวถึงพี่น้อง คือ พระภราดา (พี่ชายน้องชาย) และพระภคินี (พี่สาวน้องสาว) ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช นะครับ

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชนิพนธ์เรื่องปฐมวงศ์ ว่าพระราชบิดาของสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (รัชกาลที่ ๑) ทรงสืบเชื้อสายมาจากเจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) ซึ่งท่านเป็นราชทูตไทยไปฝรั่งเศสในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ในปี พ.ศ. ๒๒๒๙

พระราชบิดาของรัชกาลที่ ๑ (พระปฐมบรมมหาชนก) มีพระนามเดิมว่า ทองดี มีพระอัครชายา มีพระนามเดิมว่า หยก หรือ ดาวเรือง ทั้งสองพระองค์มีพระโอรสธิดา ๗ พระองค์ ได้แก่

๑. สมเด็จเจ้าฟ้าหญิง กรมพระเทพสุดาวดี (สมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาเทพสุดาวดี) มีพระนามเดิมว่า สา

๒. สมเด็จพระเจ้าขุนรามณรงค์ มีพระนามเดิมว่า ราม

๓. สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงกรมพระศรีสุดารักษ์ (สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์) มีพระนามเดิมว่า แก้ว

๔. พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช มีพระนามเดิมว่า ทองด้วง หรือ ด้วง

๕. สมเด็จพระอนุชาธิราช กรมพระราชวังบวรสถานมงคล (สมเด็จพระบวรราชเจ้า มหาสุรสิงหนาท) มีพระนามเดิมว่า บุญมา

๖. พระองค์เจ้าหญิงกุ (พระเจ้าน้องนางเธอ กรมหลวงนรินทรเทวี คนทั้งหลายเรียกว่า เจ้าครอกวัดโพธิ์ เพราะพระองค์ท่านเสด็จอยู่วังริมวัดพระเชตุพนฯ คำว่า เจ้าครอก หมายความว่า เป็นเจ้าโดยกำเนิด

๗. สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงกรมหลวงจักรเจษฎา (สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงจักรเจษฎา) มีพระนามเดิมว่า ลา

พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงมีพระภราดา (พี่ชายน้องชาย) และพระภคินี (พี่สาวน้องสาว) รวม ๖ พระองค์ ครับ

ขอย้อนมาที่ปรางค์องค์ใหญ่ที่วัดระฆังนะครับ

          ปรางค์องค์ใหญ่นี้สร้างอุทิศบุญุศลถวายสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาเทพสุดาวดี

พระองค์สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๑ เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๓๔๒ พระชันษา ๗๐ ปีเศษ

          พระองค์เป็นต้นเชื้อพระวงศ์แห่งเจ้านายวังหลัง มีพระโอรสธิดา ๔ พระองค์ นะครับ

          พระโอรสพระองค์โต คือ สมเด็จเจ้าฟ้าชายทองอิน (กรมพระราชวังบวรสถานพิมุข) ซึ่งเป็นพระบิดาของพระองค์เจ้าที่เกี่ยวข้องกับพระเจดีย์วัดระฆังอีก ๓ องค์ ซึ่งจะเล่าให้ฟังในโอกาสหน้านะครับ

แหล่งข้อมูลประกอบการเล่าเรื่อง

กรมศิลปากร. สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์. ๒๕๕๔. ราชสกุลวงศ์. พิมพ์ครั้งที่ ๔. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพร้าว

**************** 



Mina stories : The Main Prang at Wat Rakang Kositaram Woramahawihan

Today, I would like to take you to pay homage to the main Prang (Pagoda) situated on the right of the ordination hall of Wat Rakang Kositaram Woramahwihan, Bangkok.  

          This magnificent Prang was built in the style of early Rattanakosin. King Rama Ist and his elder sister, Somdet Chao Fa Ying Krom Phraya Thepsudawadee (Sa) had this Prang built to worship Buddhism.

          I would like to tell you about the brothers and the sisters of King Buddha Yodfa Chulaloke (Rama I).

King Mongkut or Phra Chom Kao Chao Yu Hua (Rama IV), the grandchild of King Rama I, wrote about the origin of his royal family. His family was the descendants of Phraya Kosathibbodi, King Narai’s ambassador who went to France in 1686.

          King Bhudda Yodfa’s father is Thongdi. His mother is Yok or Dao Roeung. His parents had 7 children, namely:

1. Princess Dhepsudawadee, her given name is Sa;

2. Prince Khun Ram Narong, his given name is Ram;

3. Princess Sisudarak, her given name is Kaeo;

4. King Buddha Youfa Chulaloke, his given name is Thong Duang or Duang;

5. Prince Mahasurasihanat, his given name is Boonma;

6. Princess Narintharathevi, her given name is Ku;

7. Princess Chak Cheksada, her given name is La.

Hence, King Bhudda Yod Fa Chulaloke the Great (Rama I of Chakri Dynasty) has 6 brothers and sisters.

*************************  



Mina raconte : Le Prang principal du temple Rakang Kositaram Woramahawihan

          Aujourd'hui, je voudrais vous emmener rendre hommage au Prang principal (Pagode) situé à droite de la salle d'ordination du Wat Rakang Kositaram Woramahwihan, Bangkok.

          Ce magnifique Prang a été construit au style de l’art du début Rattanakosin.

          Le roi Rama Ier et sa sœur aînée, Somdet Chao Fa Ying Krom Phraya Thepsudawadee (Sa) ont fait construire ce Prang pour rendre hommage au Bouddhisme.

          Je voudrais parler des frères et sœurs du roi Buddha Yodfa Chulaloke (Rama Ier).

          Le roi Mongkut ou Phra Chom Kao Chao Yu Hua (Rama IV), le petit-fils de Rama Ier, a écrit sur l'origine de sa famille royale. Sa famille était la descendante de Phraya Kosathibbodi, l'ambassadeur du roi Naraï qui s'est rendu en France en 1686.

          Le père du roi Bhudda Yodfa est Thongdi. Sa mère est Yok ou Dao Roeung. Ses parents ont eu 7 enfants, à savoir :

          1. la princesse Dhepsudawadee, son prénom est Sa ;

          2. le prince Khun Ram Narong, son prénom est Ram ;

3. la princesse Sisudarak, son prénom est Kaeo ;

          4. le roi Bouddha Youfa Chulaloke, son prénom est Thong Duang ou Duang ;

          5. le prince Mahasurasihanat, son prénom est Boonma ;

          6. la princesse Narintharathevi, son prénom est Ku ;

          7. la princesse Chak Cheksada, son prénom est La.

          Donc, le roi Bhudda Yodfa Chulaloke le Grand a 6 frères et sœurs.

**********************************

 


มินามีเรื่องเล่า บุคคลหาได้ยากสองประเภท Thai-English-French



มินามีเรื่องเล่า บุคคลหาได้ยากสองประเภท Thai-English-French

สวัสดีครับ วันนี้เป็นวันพระ ผมขอน้อมนำบุคคลสองประเภทที่หาได้ยากมาแนะนำให้ท่านรู้จักครับ

          ประเภทแรก คือบุพการี บุคคลผู้อุปการะเลี้ยงดูลูกๆ ของตนก่อนคนอื่นใด

          ประเภทที่สอง คือผู้กตัญญูกตเวที บุคคลผู้รู้อุปการะที่ท่านทำแล้ว และตอบแทน

          บุคคลทั้งสองประเภทนี้หาได้ยาก อย่างไรก็ตาม ถ้าท่านกลับบ้าน ท่านจะพบพวกเขาได้ง่าย และบุคคลประเภทที่สองจะปรากฏเมื่อท่านเคารพพวกแรก

*************

Mina’s Stories: The Two Persons Whom It Is Rare to Meet

          Today is the Buddhist Holy Day. I would like to talk about two types of persons whom it is rare to meet.

          Pubbakari is the first type. Who are they? Pubbakari means "parents", the persons who give true help to their children.

          Katanyukatavedhi is the second one. The Katanyukatavedhi person realizes the help given to him/her and so reciprocates.

These two types of persons are rare to meet.  However, if you go back home, you will meet

the first types of persons easily. And the second one will appear if you pay respect to them.

********* 



Histoires de Mina : Les personnes qu’il est rare de rencontrer.

          Aujourd'hui, c'est le jour saint bouddhiste. Je voudrais parler de deux types de personnes qu'il est rare de rencontrer.

          Pubbakari est le premier type. Qui est-il? Pubbakari signifie « parents », ceux qui apportent une aide réelle à leurs enfants.

          Katanyukatavedhi est le deuxième type. La personne du type Katanyukatavedhi se rend compte de l'aide qui lui a été apportée et rend ainsi la pareille.

          Ces deux types sont rares à rencontrer. Cependant, si vous rentrez chez vous, vous rencontrerez facilement les personnes du premier type. Et le second apparaîtra si vous les respectez.

********* 




มินามีเรื่องเล่า พระวิหารปฐมสมเด็จพระสังฆราช (สี) ที่วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร




มินามีเรื่องเล่า พระวิหารปฐมสมเด็จพระสังฆราช (สี) ที่วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร

          ท่านทราบไหมครับว่า พระสงฆ์ท่านใดเป็นสมเด็จพระสังฆราชสองแผ่นดิน คือ กรุงธนบุรีและกรุงรัตนโกสินทร์

          พระสงฆ์ท่านใดเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์แรกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์

          ที่บริเวณด้านหน้าพระอุโบสถของวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร มีพระวิหารปฐมสมเด็จพระสังฆราช (สี) ในพระวิหารมีพระพุทธรูป คือพระศรีอาริยเมตไตรย ประดิษฐานอยู่ พระพุทธรูปองค์นี้สำคัญอย่างไรครับ

          ขอเล่าย้อนไปเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๓๗ สมเด็จพระสังฆราช (สี) สิ้นพระชนม์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเพลิง แล้วโปรดให้อัญเชิญพระอัฐิของพระสังฆราช (สี) มาบรรจุไว้ในรูปพระศรีอาริยเมตไตรยนี้

ขออนุญาตเล่าถึงพระประวัติของสมเด็จพระสังฆราช (สี) นะครับ

          สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (สี) วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร ท่านเป็นสมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงธนบุรีและเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ ๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์



          เมื่อครั้งที่พระเจ้าตากสินมหาราชนำทัพไปปราบก๊กเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช หลังจากเสร็จราชการงานทัพแล้ว พระเจ้าตากสินมีรับสั่งให้ราชบัณฑิตนำพระไตรปิฎกลงบรรทุกเรือเชิญเข้ามากรุงธนบุรี แต่พอจำลองได้ทุกๆ พระคัมภีร์แล้ว จึงจะเชิญออกมาส่งไว้ตามเดิม

          ทำไมต้องพระไตรปิฎกที่นครศรีธรรมราช เพราะข้าศึกยังไปไม่ถึง ยังไม่ถูกทำลาย และนครศรีธรรมราชเป็นเมืองพุทธศาสนา

สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงมีรับสั่งให้สังฆการี (เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่เกี่ยวกับสงฆ์ในงานหลวง) ไปนิมนต์พระอาจารย์สี ที่นครศรีธรรมราช รวมทั้งพระสงฆ์สามเณรศิษย์ทั้งปวงให้กลับมากรุงธนบุรี

          เดิมพระอาจารย์สีท่านอยู่ที่วัดพนัญเชิง พระนครศรีอยุธยา เมื่อกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าในปี พ.ศ. ๒๓๑๐ ท่านได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองนครศรีธรรมราช



          ต่อมาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงตั้งท่านเป็นสมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงธนบุรี ครองวัดบางหว้าใหญ่ (วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร)

          ในช่วงเวลาที่พระเจ้าตากสินสำคัญพระองค์ว่าได้พระโสดาปัตติผล พระองค์ตรัสถามพระราชาคณะว่า พระสงฆ์จะไหว้และเคารพคฤหัสถ์ ซึ่งเป็นพระโสดาบันบุคคลจะได้หรือไม่ได้



          พระราชาคณะบางรูปตอบว่าได้ แต่สมเด็จพระสังฆราช (สี) วัดบางหว้าใหญ่ (วัดระฆังโฆสิตาราม) พระพุฒาจารย์วัดบางหว้าน้อย (วัดอมรินทราวาส) พระพิมลธรรมวัดโพธาราม (วัดพระเชตุพลวิมลมังคลาราม) ยึดในพระพุทธวจนะ ถวายพระพรว่าไม่ได้

สมเด็จพระสังฆราช (สี) พระพุฒาจารย์วัดบางหว้าน้อย และพระพิมลธรรมวัดโพธาราม จึงถูกถอดเสียจากสมณศักดิ์

          เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกเสด็จขึ้นครองราชย์แล้ว พระองค์ทรงเห็นว่า สมเด็จพระสังฆราช (สี) เป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์มั่นคงและดํารงรักษาพระพุทธศาสนาโดยแท้ โปรดให้สมเด็จพระสังฆราช (สี) พระพุฒาจารย์วัดบางหว้าน้อย และพระพิมลธรรมวัดโพธาราม ดำรงสมณศักดิ์เดิมและให้ครองพระอารามเดิม




          สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (สี) จึงนับเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

พระองค์ทรงเป็นกำลังสำคัญในการชำระฟื้นฟูพระพุทธศาสนาทั้งในด้านความประพฤติของพระภิกษุสามเณร การบูรณะปฏิสังขรณ์พุทธสถาน การตรวจชำระพระไตรปิฎก ตลอดจนการประพฤติปฏิบัติของพุทธศาสนิกชน

          นอกจากนี้ สมเด็จพระสังฆราช (สี) ท่านยังเป็นพระอุปัชฌาย์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยอีกด้วย นะครับ

          สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (สี) สิ้นพระชนม์เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๓๓๗ เป็นปีที่ ๑๓ ในรัชกาลที่ ๑ ทรงดำรงตำแหน่งสังฆราชแห่งกรุงธนบุรีในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ๑๒ ปี และทรงดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ๑๒ ปีครับ

*******



วันพฤหัสบดี, มิถุนายน 15, 2566

มินามีเรื่องเล่า พระเจ้าตากสินเข้าตีเมืองจันทบูร Thai-English-French



มินามีเรื่องเล่า พระเจ้าตากสินเข้าตีเมืองจันทบูร Thai-English-French

          สวัสดีครับ วันนี้ขออนุญาตเล่าเรื่อง พระเจ้าตากสินเข้าตีเมืองจันทบูร นะครับ

          ข้อมูลและภาพได้รับอนุเคราะห์จากท่านนาวาโทสราวุฒิ เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ครับ

          เมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๓๑๐ ในวันนั้น พระเจ้าตากสิน ได้นำเหล่าทหารกล้าเข้าตีเมืองจันทบูร 

พระองค์มีพระประสงค์จะยึดเมืองจันทรบูรเพื่อรวบรวมเสบียงอาหารและกำลังพลเพื่อเข้าตีเอากรุงศรีอยุธยาคืนจากพม่า  โดยทรงใช้กลยุทธ์ทุบหม้อข้าวหม้อแกง เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจในการรบ 

กลยุทธทุบหม้อข้าวหม้อแกง คือ ให้เหล่าทหารกินข้าวให้อิ่มแล้วทุบหม้อข้าวหม้อแกงทั้งหมดให้แตก เพื่อไปกินมื้อต่อไปที่เมืองจันทบูร  หากไม่ชนะก็ตายไปด้วยกัน

          เหตุการณ์วันที่ ๑๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๓๑๐ นั้น พระเจ้าตากสินทรงช้างพังคีรีบัญชร เข้าพังประตูเมืองจันทบูร ตามฤกษ์ ๓ นาฬิกาของเช้าวันอาทิตย์ แรม ๓ ค่ำ เดือน ๗ ปีกุน นพศกจุลศักราช ๑๑๒๙

          พระเจ้าตากสินและเหล่าทหารกล้า  สามารถยึดเมืองจันทบูรได้ตรงกับวันอาทิตย์ที่  ๑๕  มิถุนายน  พ.ศ. ๒๓๑๐ นับจากปีนี้ พ.ศ. ๒๕๖๖ จึงนับได้ว่าเป็นเวลา ๒๕๖ ปีมาแล้ว

          ด้วยจิตคารวะ  ดวงพระวิญญาณพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าและเหล่าบรรพบุรุษผู้หลั่งเลือดแลกชีวิตเพื่อปกป้องแผ่นดินไทยไว้ให้ชนรุ่นหลังได้อาศัย ปวงข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้

**************** 

Mina’s Stories : Seizing Chanthaboon City by King Taksin the Great.

          Today, I would like to tell you about the event of seizing Chanthaboon City by King Taksin the Great.

          I would like to thank CDR. Sarawut Dechatiwong Na Ayutthaya for the story and the photos.

          On June 14, 1767, King Taksin the Great led his troops to fight the soldiers of Chanthaboon City. King Taksin wanted to use Chanthaboon as a place to assemble people and prepare food supplies for the troops to fight with the enemy who had already seized Ayutthaya.

          King Taksin knew that seizing Chanthaboon was a hard work as the governor and his soldiers protected strongly the city. So, King Taksin used the strategy of Smashing the pots to win the battle.

          He ordered his soldiers to eat food and then smash the utensils. Tomorrow we will have our meal in the city., said the King, If we could not enter the city, let’s die together.

          On June 15, 1767, at 3 o’clock in the morning, King Taksin rode on an elephant called Phang Kiri Bunchon and fought fiercely with the Chanthaboon troops. He finally managed to enter the city.

          From that day to the present time, it has been 256 years of our pride. We are so grateful to our kings and our ancestors who protected us against all dangers.

****************

Mina raconte : La prise de Chathaboon par le roi Taksin le Grand

          Aujourd'hui, je voudrais vous parler de l'événement de la prise de la ville de Chanthaboon par le roi Taksin le Grand.

          Je tiens à remercier le CDR. Sarawut Dechatiwong Na Ayutthaya pour l'histoire et les photos.

          Le 14 juin 1767, le roi Taksin le Grand a mené ses troupes pour combattre les soldats de la ville de Chanthaboon.

          Le roi Taksin voulait utiliser Chanthaboon comme lieu de rassemblement des gens et de préparation de nourritures pour les combats avec les ennemis qui s'étaient déjà emparé d'Ayutthaya.

          Le roi Taksin savait que s'emparer de Chanthaboon était un travail difficile car le gouverneur et ses soldats protégeaient fortement la ville. Ainsi, le roi Taksin a-t-il utilisé la stratégie de "briser les pots" pour gagner la bataille.

          Il a ordonné à ses soldats de manger de la nourriture, puis de briser les ustensiles.

          "Demain, nous prendrons notre repas en ville", dit le roi, "Si nous ne pouvions pas entrer dans la ville, mourons ensemble."

          Le 15 juin 1767, à 3 heures du matin, le roi Taksin a monté sur un éléphant appelé "Phang Kiri Bunchon" et a combattu les troupes de Chanthaboon. Il a finalement réussi à entrer dans la ville.

          Depuis ce jour-là jusqu'à aujourd'hui, cela fait 256 ans de notre fierté. Nous sommes très reconnaissants envers nos rois et nos ancêtres qui nous ont protégés contre tous les dangers.

*****************************


วันพุธ, มิถุนายน 14, 2566

มินามีเรื่องเล่า พิพิธภัณฑ์สึนามิที่เขาหลัก







มินามีเรื่องเล่า พิพิธภัณฑ์สึนามิที่เขาหลัก

เมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ พวกเราชาว สว. ได้มีโอกาสไปแวะเยี่ยมพิพิธภัณฑ์ International Tsunami Museum ที่เขาหลัก จังหวัดพังงา


มูลนิธิแห่งนี้ มีคุณรัชนีกร ทองทิพย์ (Ratchaneekorn Thongthip) เป็นผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงภาพถ่ายและวิดีโอที่แสดงภัยพิบัติของสึนามิ ที่เขาหลัก 


ภัยพิบัติสึนามิเกิดขึ้นในประเทศไทยเมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ นะครับ 

ภายนอกพิพิธภัณฑ์ เราจะเห็นเรือตำรวจ ต. ๘๐๓ เกยตื้นด้วยฤทธิ์เดชของเจ้าสึนามินี้นะครับ

สึนามิหรือซึนามิ” (Tsunami) หมายถึง คลื่นที่มีช่างคลื่นยาว ๘๐ ถึง ๒๐๐ กิโลเมตร เกิดจากความสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว หรือแผ่นดินถล่ม หรือภูเขาไฟระเบิดที่พื้นท้องสมุทร 


คลื่นเคลื่อนที่ข้ามมหาสมุทรห่างจากตำบลที่เกิดหลายพันกิโลเมตรโดยสูงเพียง ๓๐ เซนติเมตรในท้องทะเลเปิด แต่มีความเร็ว ๖๐๐-๑,๐๐๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง เร็วใกล้เคียงเครื่องบินโดยสารที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน


เมื่อคลื่นพุ่งผ่านเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ จะทำให้เรือโคลง มีเสียงคล้ายเสียงปืนใหญ่ติดตามมา แต่เรือประมงหรือเรือเล็กที่กินน้ำตื้น คนบนเรืออาจไม่รู้สึก 


เมื่อเข้าสู่ที่ตื้น ความสูงของคลื่นเพิ่มอย่างรวดเร็ว กลายเป็น ๑๕ เมตร และในบางพื้นที่สภาพภูมิศาสตร์เป็นช่องแคบหรืออ่าวรูปตัว V มวลน้ำบีบอัดอาจทำให้คลื่นยกตัวสูงขึ้นกลายเป็น ๒๐-๓๐ เมตร กวาดเข้าสู่ชายฝั่งอย่างรุนแรงทำให้เกิดความเสียหายมหาศาล 


คลื่นสึนามิเกี่ยวข้องกับแผ่นดินไหวแบบแยกกันไม่ออก แผ่นดินไหวเกิดจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ทำให้เกิดการเลื่อนของมวลหิน ก่อเกิดเป็นแรงสั่นสะเทือนวัดเป็นมาตราริกเตอร์ (Richter)


แรงของแผ่นดินไหวจากระดับหนึ่งไปอีกระดับหนึ่งจะเป็นการเพิ่มแบบทวีคูณ แผ่นดินไหวในระดับ ๕ ริกเตอร์จะแรงเทียบเท่ากับระเบิดปรมาณูที่ทิ้งลงเมืองฮิโรชิมาและเมืองนางาซากิ ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๒


แผ่นดินไหวเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นประจำ แต่เกือบทั้งหมดเป็นแผ่นดินไหวขนาดที่เราไม่ค่อยได้รู้สึกกัน

การเกิดแผ่นดินไหวทุกครั้งไม่จำเป็นต้องเกิดคลื่นสึนามิเสมอไป ต้องขึ้นกับปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน เช่น แผ่นดินไหวในทะเล แผ่นเปลือกโลกยกตัวในรูปแบบที่ทำให้เกิดคลื่น และอื่น ๆ เป็นต้น


ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ได้รับผลจากสึนามิบ่อยครั้ง จนคำว่า “Tsunami” เป็นชื่อคลื่นที่ตั้งโดยคนญี่ปุ่น

คลื่นสึนามิครั้งร้ายแรงเกิดในปี พ.ศ. ๒๔๓๙ มีผู้เสียชีวิตกว่า ๒๐,๐๐๐ คน


อินโดนีเซียเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นยักษ์ โดยเฉพาะครั้งที่ภูเขาไฟกรากะตัวระเบิดในปีค.ศ. ๑๘๘๓ มีรายงานว่า สึนามิคร่าชีวิตผู้คนมากกว่า ๓๖,๐๐๐ คน 


กลางเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๒๖ เกิดแผ่นดินไหวใต้น้ำ ก่อให้เกิดคลื่นสึนามิพุ่งเข้าใส่ชายฝั่งปาปัวนิวกินี มีผู้เสียชีวิตมากกว่า ๓,๐๐๐ คน 


ในประเทศไทยนั้นเกิดขึ้นสึนามิเมื่อประมาณวันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ 


ความรุนแรงของคลื่นสึนามิสามารถอธิบายได้ง่าย ๆ นะครับว่า 

จากจุดที่เกิดแผ่นดินไหว มีการขยับตัวของเปลือกโลก ทำให้เกิดคลื่นสึนามิ ในระหว่างที่คลื่นพัดผ่านทะเลเปิด ความลึกของพื่นทะเลมีมากกว่าความสูงของคลื่น คลื่นจึงยกตัวเพียงเล็กน้อย 

 

แต่เมื่อคลื่นสึนามิเข้าใกล้ชายฝั่ง ความลึกของพื้นทะเลลดลง คลื่นเริ่มยกตัวสูงขึ้นจนม้วนตัวเข้าสู่แผ่นดิน ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและสิ่งปลูกสร้าง ตลอดจนแนวปะการังและธรรมชาติที่งดงามต่าง ๆ นะครับ




On May 26, 2023, we visited the International Tsunami Museum, Khao Lak, Phang-Nga. Khun Ratchaneekorn Thongthip, director of the museum, kindly explained to us about the history of the museum. 


The International Tsunami Museum is dedicated to preserving the tragic story caused by the devastating Tsunami on May 26, 2024. Photos and videos of Khao Lak’s tsunami are shown in the museum while, outside the museum, a real stranded police boat is  clearly evident of this greatest calamity.

***** 

Le 26 mai 2023, nous avons visité le Musée international des tsunamis situé dans le district de  Khao Lak, la province de Phang-Nga. 


Mme Ratchaneekorn Thongthip, directrice du musée, nous a chaleureusement accueilli. Elle nous a expliqué l'histoire du musée. 

L'International Tsunami Museum se consacre à la préservation de l'histoire tragique causée par le tsunami dévastateur du 26 mai 2024. Des photos et des vidéos du tsunami de Khao Lak sont présentées dans le musée tandis qu'à l'extérieur du musée, un bateau de police emporté sur la terre par ce gigantesque tsunami en témoigne sa violence.

*********************************** 






มินามีเรื่องเล่า กรมหลวงพิพิธมนตรี พระพันวัสสาน้อย Thai-English-French

  มินามีเรื่องเล่า กรมหลวงพิพิธมนตรี พระพันวัสสาน้อย Thai-English-French กรมหลวงพิพิธมนตรี (พระพันวัสสาน้อย) เป็นพระอัครมเหสีน้อยของสมเด็จพ...