Chalermkiat Mina
วันอังคาร, กันยายน 19, 2566
มินามีเรื่องเล่า เมืองโบราณศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี
วันจันทร์, กันยายน 18, 2566
มินามีเรื่องเล่า ตรีศูลที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี Thai-English-French
มินามีเรื่องเล่า ตรีศูลที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี Thai-English-French
สวัสดีครับ วันนี้ขออนุญาตนำเสนอเรื่องตรีศูล หรือที่เรียกกันแบบคุ้นเคยว่า ศูล นะครับ
ตรีศูลมีลักษณะและมีความสำคัญอย่างไรครับ
ตรีศูลหรือศูลเป็นอาวุธที่ใช้เสียบ ทิ่ม และแทง นะครับ มีลักษณะคล้ายใบหอกสั้นหรือพระขรรค์ ๓ เล่ม มีโคนร่วมอยู่ในด้ามเดียวกัน เราอาจเรียกง่าย ๆ ว่าเป็นสามง่ามแหลม มีด้ามถือยาวแบบหอกก็ได้นะครับ
ส่วนความสำคัญนั้น ในศาสนาพราหมณ์ ลัทธิไศวนิกายที่นับถือพระศิวะเป็นใหญ่กว่าเทพองค์ใด ถือว่าตรีศูลเป็นอาวุธสำคัญประจำพระองค์ของพระศิวะ นะครับ กล่าวง่าย ๆ คือ เป็นศัตราประจำหัตถ์พระศิวะครับ
ในทางประติมานวิทยาถือว่าตรีศูลเป็นสัญลักษณ์ที่หมายถึงพระศิวะเหมือนกับศิวลึงค์ นะครับ ดังนั้นคนในสมัยก่อนนิยมสร้างตรีศูลขึ้นเพื่อประดิษฐานไว้ในศาสนสถานของศาสนาพราหมณ์ ลัทธิไศวนิกายไว้แทนประติมากรรมรูปพระศิวะนะครับ
ตรีศูลที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี เป็นศิลปะทวาราวดี อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๒ ทำด้วยหินทราย สูง ๘๘ เซนติเมตร ได้มาจากบ้านโคกวัด ตำบลโคกปีบ อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี นะครับ
แม้ว่าตรีศูลที่อยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรีมีสภาพชำรุด ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ แต่เราพอศึกษาหาความรู้จากตรีศูลนี้ได้นะครับ
ยอดและด้ามของตรีศูลหักหายไป แต่โชคดีที่ยังมีฐานของตรีศูลอยู่ ฐานของตรีศูลนั้นสลักรูปนูนต่ำเป็นลวดลายพันธุ์พฤกษา มีลักษณะลวดลายใกล้เคียงกับลวดลายในศิลปะอินเดียแบบคุปตะ และศิลปะเขมรแบบสมโบร์ไพรกุก ซึ่งมีอายุอยู่ในต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๒ นะครับ
******
Mina's Stories: The
Trishula, weapon of Lord Shiva
Good morning, I would
like to tell you about the Trishula placed in an exhibition hall of National
Museum at Prachin Buri.
The Trishula is a
weapon wielded by Lords Shiva, Great God of Shaivism, one of the major
traditions of Hinduism. This Trisula, aka in Thai Tri Soon or Soon, is a
trident-like weapon with long handle. It was placed in a Shaivite shrine as a
symbol of Lord Shiva, the Supreme Being of Shivaism.
This Trishula was
found at Ban Wat, Khok Pip Sub-district, Si Mahosot District, Prachin Buri
Province. This sandstone Trishula represents a Dvaravati art.
Although its top and
handle disappeared, this sandstone Trishula also gives us a trace of
Dvaravati art in this region. It was carved around the 7th century CE or 1,400
years BE.
****
Mina raconte : La Trishula, arme du Seigneur Shiva
Bonjour, aujourd’hui je voudrais vous parler de la
Trishula, arme du Dieu Shiva, Dieu Suprême du Shivaïsme, une doctrine
traditionnelle de l’Hindouïsme. Cette arme céleste est actuellement placée dans
une salle d'exposition du Musée national de Prachin Buri.
La Trishula, connue sous le nom thaï « Tri Soon ou
Soon », est une arme en forme de trident avec un long manche. Il a été
placé dans un sanctuaire shivaïte comme symbole du Seigneur Shiva, l'Être
suprême du Shivaïsme. Donc, à part le Shiva lingum, pierre dressée d’apparence
phallique représentant Shiva, les gens d’autrefois préfèrent aussi sculpter la Trishula
pour représenter leur Dieu Suprême du Shivaisme.
Cette Trishula en grès a été trouvé au village de Ban
Wat, sous-district de Khok Pip, district de Si Mahosot, province de Prachin
Buri.
Bien que le dessus et l’anse de l’arme aient disparu, cette
Trishula nous donne également la trace de l'art Dvaravati dans cette région. Elle
a été sculptée vers le 7ème siècle de notre ère ou 1 400 ans de
l’ère Bouddhique.
***************
วันอาทิตย์, กันยายน 17, 2566
มินามีเรื่องเล่า รูปแผ่นดินเผาพิมพ์ลาย เรื่องพระกฤษณะยกภูเขาโควรรธนะ
วันเสาร์, กันยายน 16, 2566
มินามีเรื่องเล่า ร่องรอยวัฒนธรรมลุ่มน้ำบางปะกงและภูมิภาคตะวันออก ที่ชุมชนโบราณบ้านโคกพนมและบ้านหนองโน
มินามีเรื่องเล่า ร่องรอยวัฒนธรรมลุ่มน้ำบางปะกงและภูมิภาคตะวันออก ที่ชุมชนโบราณบ้านโคกพนมและบ้านหนองโน
วันศุกร์, กันยายน 15, 2566
มินามีเรื่องเล่า ศิวลึงค์ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี
มินามีเรื่องเล่า ศิวลึงค์ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี
สวัสดีครับเมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๖
ผมได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี
ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรีแห่งนี้ มีแท่นศิวลึงค์ทำด้วยหินทราย
เป็นศิลปะทวาราวดี มีความสูง ๒๑ เซนติเมตร มีฐานกว้าง ๖๕ เซนติเมตร
ได้มาจากอำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี
ศิวลึงค์มีความสำคัญอย่างไร
ศิวลึงค์เป็นประติมากรรมรูปเคารพที่สำคัญในศาสนาพราหมณ์ลัทธิไศวนิกายนะครับ
ไศวนิกายคือลัทธิอะไร คือลัทธิที่นับถือพระศิวะเป็นใหญ่นะครับ
ในสมัยนั้นศาสนาพราหมณ์หรือฮินดูมีการนับถือลัทธิสำคัญ ๒ ลัทธิครับ
ลัทธิที่นับถือพระศิวะเป็นใหญ่ เรียกว่าไศวนิกาย
แต่ถ้านับถือพระวิษณุเป็นใหญ่ เรียกว่า ไวษณพนิกาย ทั้งสองลัทธิอยู่ร่วมกันได้ครับ
แล้วแต่ว่าใครจะนิยมเทพองค์ใดเป็นใหญ่มากกว่ากัน
คติความเชื่อในการสร้างศิวลึงค์นั้น
ได้มีการสร้างและประดิษฐานศิวลิงค์ไว้ที่ไหนครับ
เรามักจะพบว่ามีการประดิษฐานศิวลึงค์เป็นประติมากรรมประธานในศาสนสถานนะครับ
ทำไมต้องเป็นศิวลึงค์ด้วย
คำตอบคือ
เพราะศิวลึงค์เป็นสัญลักษณ์ที่มีความหมายแทนองค์พระศิวะซึ่งเป็นพระผู้เป็นเจ้าผู้ให้กำเนิดแก่มวลมนุษย์ ศิวลึงค์
คือองค์กำเนิดเพศชายที่เป็นสัญลักษณ์แทนองค์พระศิวะ หมายถึงการสร้างสรรค์
ความมั่งคั่ง ความเจริญรุ่งเรือง ในขณะเดียวกันก็หมายถึงตรีมูรติ ได้แก่ เทพเจ้า ๓
องค์ในศาสนาพราหมณ์ โดยแท่งศิวลึงค์แบ่งออกเป็น ๓ ส่วนหรือเรียกว่า ๓ ภาคก็ได้ครับ
ภาคที่ ๑ คือ รุทรภาค หรือปูชาภาค เป็นรูปกลม
อยู่ด้านบนสุดของศิวลึงค์ หมายถึงพระศิวะ
ภาคที่ ๒ คือ วิษณุภาค เป็นส่วนกลาง อาจทำเป็นรูปแปดเหลี่ยม หมายถึง
พระวิษณุ
ภาคที่ ๓ คือ พรหมภาค คือส่วนล่าง อาจทำเป็นรูปสี่เหลี่ยม
หมายถึงพระพรหม นะครับ
ย้อนมาที่ศิวลึงค์ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรีนะครับ ศิวลึงค์แท่งนี้เป็นรูปสลักติดกับฐานสี่เหลี่ยมซึ่งเป็นร่องรองรับน้ำสรง
ศิวลึงค์นี้มีเฉพาะส่วนรุทรภาคหรือปูชาภาค
คือส่วนยอดของศิวลึงค์ที่โผล่ขึ้นมาจากตรงกลางของฐานโยนี ครับ
ลักษณะของศิวลึงค์ประเภทนี้จะใกล้เคียงกับกายวิภาคตามธรรมชาติ
ถือเป็นศิวลึงค์รุ่นเก่าสุด มีลักษณะเหมือนศิวลึงค์ในศิลปะจาม กล่าวคือ
จะตัดทอนเอาส่วนพรหมภาคและวิษณุภาคออกไปครับ
ศิวลึงค์ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ
ปราจีนบุรีนี้เป็นศิวลึงค์ที่นิยมในศิลปะเขมรก่อนเมืองพระนคร
ซึ่งมีอายุประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๑-๑๓ คาดว่าศิวลึงค์จะมีอายุในระหว่างพุทธศตวรรษที่
๑๒-๑๓ เป็นอย่างน้อยนะครับ
แหล่งข้อมูล
ศิลปากร, กรม. นำชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ
ปราจีนบุรี. กรุงเทพฯ : บริษัท คัมปาย อิมเมจจิ้ง
จำกัด, ๒๕๔๒.
https://www.finearts.go.th/roietmuseum/view/11398-เอกมุขลึงค์.
วันศุกร์, สิงหาคม 18, 2566
มินามีเรื่องเล่า วันที่ ๑๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๑๑ ที่มาของวันวิทยาศาสตร์ของชาติไทย
ภาพเมื่อวันที่ ๑๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ ณ อนุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
มินามีเรื่องเล่า วันที่ ๑๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๑๑ ที่มาของวันวิทยาศาสตร์ของชาติไทย
สวัสดีครับ วันนี้วันที่ ๑๘ สิงหาคม เป็นวันวิทยาศาสตร์ไทย วันนี้เกี่ยวข้องอย่างไรกับเหตุการณ์ของวันที่ ๑๘ สิงหาคม ปีพุทธศักราช ๒๔๑๑ ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขออนุญาตนำข้อความจากพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๑-๔ ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค) หน้าที่ ๒๐๐๙-๒๐๑๐ มาถ่ายทอด ณ ที่นี้นะครับ
“ณ วันอังคาร เดือน ๑๐ ขึ้น ๑ ค่ำ ตรงกับวันที่ ๑๘ สิงหาคม
พ.ศ. ๒๔๑๑ เวลา ๒ โมงเช้า เจ้าพนักงานเตรียมกล้องใหญ่น้อย
เครื่องทรงทอดพระเนตรสุริยุปราคา เวลาเช้า ๔ โมง ๓ นาที เสด็จออกทรงกล้อง
แต่ท้องฟ้าเป็นเมฆฝนคลุ้มไป ในด้านตะวันออกไม่เห็นอะไรเลยต่อเวลา ๔ โมง ๑๖ นาที
เมฆจึงจางสว่างออกไปเห็นดวงพระอาทิตย์ไร ๆ แลดูพอรู้ว่าจับแล้วจึงประโคม
เสด็จสรงมุรธาภิเษก ครั้นเวลา ๕ โมง ๒๐ นาที แสงแดดอ่อนลงมา
ท้องฟ้าตรงดวงอาทิตย์สว่างไม่มีเมฆเลย ที่อื่นแลเห็นดาวใหญ่ด้านตะวันตกและดาวอื่น
ๆ มากหลายดวง เวลา ๕ โมง กับ ๓๖ นาที ๒๐ วินาที จับสิ้นดวง เวลานั้นมืดเป็นเหมือนกลางคืนเวลาพลบค่ำ
คนที่นั่งใกล้ ๆ กันก็แลดูไม่รู้จักหน้ากัน แล้วพระราชทานเงินแจกพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยซึ่งตามเสด็จโดยพระราชดำเนินออกไปโดยทั่วกัน”
พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่มีต่อวงการวิทยาศาสตร์ไทยนับว่ายิ่งใหญ่
พระองค์ทรงแสดงพระอัจริยภาพด้านวิทยาศาสตร์ มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ นับว่าเป็น Solf Power ที่ทรงแสดงให้บรรดาทูตานุทูตชาวตะวันตกได้ประจักษ์
เป็นการแสดงตัวตนของประเทศสยามในยุคเริ่มมหันตภัยแห่งการล่าอาณานิคมเริ่มบังเกิดขึ้น
นะครับ
วันพฤหัสบดี, สิงหาคม 17, 2566
มินามีเรื่องเล่า บุญกิริยาวัตถุ ๓ ประการ Thai-English-French
มินามีเรื่องเล่า บุญกิริยาวัตถุ ๓ ประการ Thai-English-French
สวัสดีครับ
วันนี้ขออนุญาตเล่าเรื่อง บุญกิริยาวัตถุนะครับ
บุญกิริยาวัตถุ
คือ สิ่งเป็นที่ตั้งแห่งการบำเพ็ญบุญ กล่าวโดยย่อมี ๓ อย่าง ได้แก่
๑.
ทานมัย บุญสำเร็จด้วยการบริจาคทาน
๒.
สีลมัย บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล
๓.
ภาวนามัย บุญสำเร็จด้วยการเจริญภาวนา
การตักบาตรถือเป็นทานมัยด้วยนะครับ ทำบุญกันนะครับ
******************
Mina’s
stories: the three Punnakiriyavatthu
Good morning. I would like to tell you about the three Punnakiriyavatthu. They refer to the three meritorious fields of action. What are they?
They are composed of Danamaya, Silamaya and Bhavanamaya.
They
are briefly stated as:
1.
Danamaya.
It is the merit acquired by giving dana, generosity.
2.
Silamaya.
It is the merit acquired by maintaining Sila, moral behaviour.
3.
Bhavanamaya.
It is the merit acquired by developing Bhavana, training one's heart mind.
Offerings
foods to monks is one of the Danamaya or generosity for all of us.
Hence, generosity, moral behaviour and trainings one’s heart mind are the three meritorious actions which can be acquired by all of us.
******************
Histoires de Mina : Les Trois Punnakiriyavatthu
Bonjour. Aujourd’hui j’aimerais parler des trois Punnakiriyavatthu. Ils signifient trois catégories des actes méritoires. Ce sont : Danamaya, Silamaya et Bhavanamaya.
1. Danamaya. C'est le mérite acquis en donnant des offrandes ou Dana. Ce sont des actes de générosité.
2. Silamaya. C'est le
mérite acquis en maintenant le comportement moral ou Sila.
3. Bhavanamaya. C'est le mérite acquis en entraînant notre cœur et notre esprit vers la concentration. Nous l’appelons « Bhavana ».
Faire des offrandes de nourriture est considéré comme un des actes de Dana pour nous tous.
Donc, la générosité, le comportement décent et moral, et la pratique de la concentration sont les trois actes méritoires importants pour nous.
………………………
มินามีเรื่องเล่า กรมหลวงพิพิธมนตรี พระพันวัสสาน้อย Thai-English-French
มินามีเรื่องเล่า กรมหลวงพิพิธมนตรี พระพันวัสสาน้อย Thai-English-French กรมหลวงพิพิธมนตรี (พระพันวัสสาน้อย) เป็นพระอัครมเหสีน้อยของสมเด็จพ...
-
เขาหัวแตก พัทลุง มินามีเรื่องเล่า ปุรินทราภิบาล ผมได้รับเมตตาจากท่านอาจารย์จรรยา คชพันธ์ ข้าราชการบำนาญของโรงเรียนสตรีพัทลุง ซึ่...
-
ที่มาของภาพ https://www.108prageji.com มินามีเรื่องเล่า หลวงพ่อพระองค์แสน วัดพระธาตุเชิงชุม วรวิหาร จังห...
-
หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง จังหวัดหนองคาย มินามีเรื่องเล่า หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง จังหวัดหนองคาย ตอนที่ ๒ ...

















