Chalermkiat Mina

วันเสาร์, กันยายน 16, 2566

มินามีเรื่องเล่า ร่องรอยวัฒนธรรมลุ่มน้ำบางปะกงและภูมิภาคตะวันออก ที่ชุมชนโบราณบ้านโคกพนมและบ้านหนองโน

 


มินามีเรื่องเล่า ร่องรอยวัฒนธรรมลุ่มน้ำบางปะกงและภูมิภาคตะวันออก ที่ชุมชนโบราณบ้านโคกพนมและบ้านหนองโน

**********
สวัสดีครับ เมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๖ ผมได้มีโอกาสไปเยี่มมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี และได้เรียนรู้ร่องรอยวัฒนธรรมลุ่มน้ำบางปะกง จึงขออนุญาตนำมาถ่ายทอดสู่กันฟังครับ
ภูมิประเทศในเขตภาคตะวันออกนั้นมีความอุดมสมบูรณ์ ก่อให้เกิดชุมชนโบราณยุคก่อนประวัติศาสตร์มากมายหลายแห่ง ชุมชนเหล่านี้กระจายตัวอยู่รอบขอบอ่าวทะเล ในปัจจุบันประกอบไปด้วยพื้นที่ต่าง ๆ รวม ๘ จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด และนครนายก นะครับ
ชุมชนโบราณยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่สำคัญสองแห่งได้แก่ ชุมชนบ้านโคกพนมดี และชุมชนบ้านหนองโน
ชุมชุนบ้านโคกพนมดี ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าข้าม อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี มีอายุราว ๓,๕๐๐-๔,๐๐๐ ปีมาแล้ว พบร่องรอยการตั้งถิ่นฐานที่อยู่อาศัยของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ โดยใช้ทรัพยากรทางทะเลเพื่อการอุปโภคบริโภค ความรุ่งเรืองของชุมชน คือการขุดค้นพบหลุมฝังศพจำนวนหนึ่งนะครับ มีโครงกระดูกจำนวนมากถึง ๑๕๔ โครง ที่โดดเด่นที่สุด คือโครงกระดูกหญิงสาวซึ่งตกแต่งเรือนร่างด้วยลูกปัดที่ทำจากเปลือกหอยมากมายถึง ๑๒๐,๐๐๐ เม็ด อีกทั้งฝังสิ่งของเป็นเครื่องอุทิศอีกเป็นจำนวนมาก สันนิษฐานไว้ว่าคงเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญต่อชุมชนนี้แน่นอน ซึ่งต่อมาเธอผู้นี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น เจ้าแม่แห่งโคกพนมดี (ท่านสามารถตามอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.silpa-mag.com/history/article_93448 วารสารศิลปวัฒนธรรม ตอน สตรีลึกลับกับเครื่องประดับนับแสนชิ้น ใครคือเจ้าแม่แห่งโคกพนมดี?)



ไม่ไกลจากโคกพนมดีนั้นมีอีก ๑ ชุมชนตั้งอยู่ ได้แก่ ชุมชนหนองโน มีอายุราว ๒,๗๐๐-๔,๕๐๐ ปีมาแล้ว แหล่งโบราณคดีบ้านหนองโน ตั้งอยู่ที่ตำบลไร่หลักทอง อำเภอพนัสนิคม นะครับ
แหล่งโบราณคดีเหล่านี้เคยเป็นซากสุสานหอยที่มีซากเปลือกหอยนานาชนิดมากกว่า ๖ ล้านฝาครับ หอยเหล่านี้อยู่บนหาดทรายและจมอยู่ในทะเลโคลนตมมากกว่า ๔,๐๐๐ กว่าปีมาแล้ว
ชุมชนโบราณหนองโนเป็นชุมชนเล็ก ๆ มีประชากรเพียงไม่กี่ครอบครัวอาศัยอยู่ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แล้วอพยพไปหาที่อยู่ใหม่
ด้วยสภาพแวดล้อมของการตั้งถิ่นฐาน ชาวโคกพนมดีและชาวหนองโนจึงมีวิถีชีวิตที่ใกล้เคียงกัน โดยแสวงหาอาหารจากธรรมชาติทั้งทางทะเลจากสัตว์น้ำและเข้าป่าล่าสัตว์ ได้มีการพบเศษกระดูกกลางทะเล เช่น ฉลาม โลมา วาฬ บนบกมีการพบเศษกระดูกวัวป่าและควายป่า เป็นต้น คนในชุมชนทั้งสองแห่งยังมีความสามารถในการผลิตภาชนะดินเผาและประดิษฐ์เครื่องมือเครื่องใช้จากกระดูกสัตว์ เช่น เบ็ดตกปลา เข็ม หมุด เพื่อใช้สอยในการดำรงชีวิต โดยเชื่อว่ายังไม่รู้จักวิธีการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์อย่างจริงจัง
เมื่อมีคนในชุมชนเสียชีวิตก็มีพิธีกรรมการฝังศพพร้อมของกินและเครื่องใช้อุทิศให้แก่ผู้ตายเพื่อนำไปใช้ในโลกหน้า
ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของที่ราบลุ่มชายฝั่งทะเลที่เหมาะสมในการตั้งถิ่นฐานและขยายบ้านเมือง รวมทั้งการค้าขายแลกเปลี่ยนทรัพยากรไปยังดินแดนห่างไกล ประกอบกับการรับความเชื่อทางศาสนาและวัฒนธรรมยุคประวัติศาสตร์จากภายนอก ชุมชนโบราณที่เคยมีอยู่จึงก่อตัวขึ้นเป็นเมืองต่าง ๆ เช่นเมืองศรีมโหสถ
โปรดติดตามเรื่องเมืองศรีมโหสถในตอนต่อไปนะครับ
ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น
แชร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มินามีเรื่องเล่า กรมหลวงพิพิธมนตรี พระพันวัสสาน้อย Thai-English-French

  มินามีเรื่องเล่า กรมหลวงพิพิธมนตรี พระพันวัสสาน้อย Thai-English-French กรมหลวงพิพิธมนตรี (พระพันวัสสาน้อย) เป็นพระอัครมเหสีน้อยของสมเด็จพ...