มินามีเรื่องเล่า
กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ตอนหลวงรักษาราชทรัพย์ (รักษ์ เอกะวิภาต)
สวัสดีครับ
วันนี้ขออนุญาตเล่าความเป็นมาว่าทำไมต้องเขียนเรื่องของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์นะครับ
ไม่มีอะไรเป็นเหตุบังเอิญนะครับ
ผมไม่ค่อยคิดถึงความบังเอิญ แต่ค่อนข้างเชื่อมั่นในเรื่องฟ้าดินกำหนด
ทำไมถึงเชื่อเช่นนี้ครับ ขออนุญาตเล่าที่มาของการเขียนเรื่องของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ให้ฟังนะครับ
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า พวกเราชาวเกษียณชน ๕ คน เป็นเพื่อนเรียนด้วยกันมาที่มหาวิทยาลัยศิลปากร
เมื่อเกษียณอายุราชการแล้ว ได้พบกันบ่อยขึ้น คราวนี้เพื่อน ๆ ได้จัดทำโครงการเดินทางไปกราบคารวะอาจารย์ที่อำเภอท่าชนะ
จังหวัดสุราษฎร์ธานี และได้เดินทางไปเยี่ยมพี่น้องผองเพื่อนที่พังงาและกระบี่
พูดง่าย ๆ คือโครงการเที่ยวนะครับ ผมโชคดีที่ได้รับเชิญให้ร่วมเดินทางไปด้วย
เรื่องการเดินทางเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
ขอรวบรัดตัดตอนว่า วันที่ ๑๘ พฤษภาคม พวกเราออกเดินทางจากกระบี่โดยมีกำหนดการมาพักที่จังหวัดชุมพร
แน่นอน เราต้องมากราบกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ที่ศาลของพระองค์ ณ หาดทรายรี
พวกเรามาถึงที่หาดทรายรีตอนย่ำค่ำ หารีสอร์ทพัก
ในใจพากันคิดว่าศาลของพระองค์ท่านคงปิดแล้ว แต่เจ้าของรีสอร์ทบอกว่า ยังไม่ปิด
ให้เดินทางไปได้
ตอนนี้ทหารเรือกำลังจัดเตรียมพิธีฉลองครบรอบร้อยปีของท่านเสด็จเตี่ยอยู่
ไม่รอช้า พวกเรารีบไปที่ศาลฯ ทันที
ก่อนถึงศาลของเสด็จเตี่ย
มีวัดชื่อวัดเขตอุดมศักดิ์ กำลังจัดงานบุญ พวกเรายังไม่ได้เข้าไปในวัด
แต่เลยไปที่ศาลกรมหลวงชุมพรฯ ที่นั้น
บรรดาทหารเรือและผู้ที่เกี่ยวข้องกำลังยุ่งอยู่กับการจัดเตรียมการสำหรับทำพิธีน้อมรำลึกถึงการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ท่านในวันพรุ่งนี้
วันที่ ๑๙ พฤษภาคม ซึ่งถือว่าเป็นวันกองทัพเรือไทย
พวกเราไม่รอช้า
รีบเข้าไปกราบบูชาศาลของพระองค์ท่าน ผมสังเกตว่า เพื่อนหญิงของผมคนหนึ่ง
ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมในการเดินทาง และเป็นเจ้าของรถและขับรถให้พวกเราตลอดเส้นทาง แสดงความเคารพศรัทธาต่อกรมหลวงชุมพรฯ
มาก
ขณะที่พวกเรากำลังกราบไหว้บูชาเสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรฯ
และถ่ายรูปกัน เพื่อนของเราคือ คุณครูรัชภรณ์ (แหม่ม) กราบไหว้บูชาเสด็จในกรมฯ และได้แยกไปทำพิธีและจุดประทัดตามลำพัง
เมื่อกลับมาหาพวกเรา เธอบอกกับพวกเราว่า ดีใจที่สุดที่ได้มีโอกาสมากราบเคารพศาลกรมหลวงชุมพรฯ
“ปู่ของแหม่มเคยรับราชการใกล้ชิดกับพระองค์ท่าน
นับเป็นบุญกุศลของแหม่มที่ได้มีโอกาสมาร่วมงานพิธีนี้”
วันรุ่งขึ้น ๑๙ พฤษภาคม พวกเรากำลังจะเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ
นับว่ามีวาสนาที่พวกเราได้มีโอกาสพบนายทหารเรือท่านหนึ่ง ท่านเชิญให้พวกเราเข้าร่วมพิธีบวงสรวงศาลกรมหลวงชุมพรฯ
พวกเราจึงได้ไปเข้าร่วมพิธี
ได้เวลาสมควร
พวกเราขอเดินทางกลับก่อน ระหว่างที่ขับรถกับกรุงเทพฯ เพื่อนครูรัชภรณ์ (แหม่ม) ได้เล่าให้พวกเราฟังว่า
คุณปู่ของเธอ คือหลวงรักษาราชทรัพย์ (รักษ์ เอกะวิภาต) ท่านได้มีโอกาสรับใช้เสด็จในกรมฯ
พวกเรารู้สึกตื่นเต้นและสนใจเรื่องราว
เพื่อนแหม่มบอกว่าจะพยายามหาเรื่องราวของท่านมาให้พวกเราได้รับทราบ
เมื่อกลับมาถึงบ้านกันแล้ว
เพื่อนแหม่มได้ส่งรูปภาพและเรื่องของท่านหลวงรักษาราชทรัพย์มาทางไลน
พอดี
ผมได้อ่านหนังสือเรื่อง “ให้โลกทั้งหลายเขาลือ เสด็จเตี่ย “กรมหลวงชุมพรฯ” แต่งโดยท่านศรัณย์
ทองปาน ท่านได้กล่าวถึงหลวงรักษาราชทรัพย์
ผมจึงขออนุญาตนำข้อความจากหนังสือของท่านศรัณย์ ทองปาน มาถ่ายทอดให้ทุกท่านทราบครับ
ด้วยวัยเกือบ ๗๐ ปี นาวาตรี
หลวงรักษาราชทรัพย์ (รักษ์ เอกะวิภาต, ๒๔๒๖-เดือนธันวาคม ๒๔๙๘)
อดีตนายทหารการเงินของกองทัพเรือซึ่งเคยมีโอกาสรับใช้ใกล้ชิดกรมหลวงชุมพรฯ
เริ่มเขียนจดหมายเล่าเรื่องเสด็จในกรมฯ ตามที่ทานเคยรับรู้ส่งมาให้ ซึ่งบรรณาธิการได้ทยอยตีพิมพ์เผยแพร่ผ่านหน้ากระดาษของนาวิกศาสตร์
เกือบ ๔๐ ปีให้หลังจากที่กรมหลวงชุมพรฯ
เคยทรงมีบทความลงพิมพ์ใน นาวิกศาสตร์ ตั้งแต่ฉบับแรกสุดในปี ๒๔๖๐ นี่คือการแปรรูป “เรื่องเล่า”
และ “ความทรงจำ” เกี่ยวกับเสด็จในกรมฯ ให้เป็นลายลักษณ์อักษร
เพื่อส่งต่อให้แก่คนรุ่นหลังในวงกว้างผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ อันถือเป็นปรากฏการณ์สำคัญยิ่งในการประกอบสร้างพระประวัติของ
“เสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรฯ”
ในจดหมายเหล่านั้น
หลวงรักษาราชทรัพย์เรียกขานพระองค์ว่า “เจ้าพ่อ” ทุกคำ
ในหนังสือ “ให้โลกทั้งหลายเขาลือ
เสด็จเตี่ย “กรมหลวงชุมพรฯ” ท่านศรัณย์ ทองปาน ได้ถ่ายทอดเรื่องเล่าของหลวงรักษาราชทรัพย์
(รักษ์ เอกะวิภาต) ตอนที่กรมหลวงชุมพรฯ ได้พบกับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
จังหวัดชัยนาท มีใจความดังนี้ครับ
“...ต่อมาเดือน ๕ หน้าร้อน เจ้าพ่อเสด็จประพาสตากอากาศไปทางเหนือ
มีเรือกลไฟ ๑ ลำ จูงเรือพระประเทียบที่ประทับ
ได้ไปจอดหุงข้าวต้มแกงที่ศาลาวัดมะขามเฒ่า ในวันนั้นบังเอิญท่านอาจารย์วัดมะขามเฒ่าใช้เด็กวัดไปตัดหญ้าที่ดงต้นกล้วย
ๆ ที่ออกปลีที่แก่แล้วมี ๗-๘ ต้น เด็กวัดก็ตัดหัวปลีกล้วยมากองไว้
พอตกเวลาบ่ายท่านอาจารย์ก็ลงมาจากกุฏิดูเด็กที่ตัดกล้วยแล้วไปนั่งอยู่ที่กองหัวปลีกล้วย
ท่านเอาหัวปลีที่กองอยู่นั้นมาลูบ ๆ คลำ ๆ สักครู่หนึ่งก็วางหัวปลีลงที่ดิน
หัวปลีนั้นก็กลายเป็นกระต่ายวิ่งเพ่นพ่านไปหมด เจ้าพ่อเห็นเข้าก็เรียกคนในเรือให้มองดู
อีกสักครู่หนึ่งท่นก็เรียกกระต่ายที่วิ่งอยู่นั้นาที่ท่าน ๆ ก็จับกระต่าย ๆ
ก็กลับกลายเป็นหัวปลีไปอย่างเดิม
เมื่อเจ้าพ่อเห็นดังนั้นก็เลื่อมใสนับถือท่านอาจารย์วัดมะขามเฒ่าทันที
แล้วเจ้าพ่อก็เสด็จขึ้นไปหาอาจารย์ที่ดงต้นกล้วย พร้อมด้วยบริวาร ๓ คน...คุยกันสักครู่ใหญ่ท่านอาจารย์ก็เชิญขึ้นไปคุยกันที่กุฏิ
คุยกันไปคุยกันมา เจ้าพ่อก็พอพระทัย ประมาณ ๔-๕ ทุ่มจึงได้เสด็จกลับลงมาประทับเรือ
ทางฝ่ายท่านอาจารย์ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นใคร
รุ่งขึ้นจึงให้คนไปสืบถามพวกที่มากับเจ้าพ่อ
จึงได้รู้ความว่านี่แหละพระองค์เจ้าอาภากร ลูกในหลวงรัชกาลที่ ๕
เมื่อท่านอาจารย์ทราบดังนั้นก็พอใจมาก...”
นอกจากตอนที่กรมหลวงชุมพรฯ
ได้พบกับหลวงปู่ศุขแล้ว หลวงรักษาราชทรัพย์ ยังบันทึกเหตุการณ์ช่วงที่สยามเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่
๑ ครั้งนั้นเสด็จในกรมฯ กลับเข้ามารับราชการ โดยเสด็จมายังกระทรวงทหารเรือเพื่อรายงานตัวในฐานะ
“นายทหารกองหนุน ไม่มีเบี้ยหวัด”
หลวงรักษาราชทรัพย์ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า
“พอถึงเวลาย่ำรุ่ง ยังไม่สว่างดี เห็นเรือกลไฟลำหนึ่งแล่นตรงมาที่โป๊ะที่
๑ ต่างคนต่างมองดู พอถึงโป๊ะที่ ๑ เสด็จในกรมฯ ก็เสด็จขึ้น ทรงฉลองพระองค์แต่งทหาร
สวมเสื้อกางเกงสีกากี คาดกระบี่ยาว ทหารที่อยู่ในที่นั้นร้องเสียงดังลั่นว่า ‘เจ้าพ่อเสด็จมาช่วยแล้ว
ๆ’...”
ต่อมาพระองค์ท่านได้กลับเข้ารับราชการในกระทรวงทหารเรืออีกครั้งหนึ่ง
ท่านศรัณย์ ทองปาน
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับหลวงรักษาราชทรัพย์ไว้ว่า
สองปีต่อมา ในเดือนธันวาคม ๒๔๙๘
หลวงรักษาราชทรัพย์ถึงแก่กรรม สิริอายุได้ ๗๒ ปี
หลวงรักษาราชทรัพย์ (รักษ์ เอกะวิภาต)
ท่านได้เขียนหนังสือเล่าเรื่องเกร็ดพระประวัติของเสด็จในกรมฯ ฉบับหลวงรักษาราชทรัพย์
ซึ่งท่านศรัณย์ ทองปาน เข้าใจว่าคงจะพิมพ์รวมเล่มครั้งแรกเป็นอนุศรณ์งานพระราชทานเพลิงศพของหลวงรักษาราชทรัพย์เมื่อเดือนมีนาคม
๒๔๙๙ โดยใช้ชื่อหน้าปกว่า เกียรติประวัติ กรมหลวงชุมพรเขตร์อุดมศักดิ์
เวทย์มนต์ ตำรายาจากคัมภีร์ของ (เจ้าพ่อ)
ต่อมากองประวัติศาสตร์
กรมยุทธการทหารเรือ นำมารวมพิมพ์ในหนังสือ อนุสรณ์พิธีเปิดกระโจมไฟชุมพรเขตอุดมศักดิ์
ที่แหลมปู่ตา อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่อปี ๒๕๐๓
ผมเข้าใจความรู้สึกของเพื่อนครูรัชภรณ์ว่า
มีความภาคภูมิใจในบรรพบุรุษของเพื่อนเพียงใด คุณปู่ของเพื่อนได้มีโอกาสรับใช้เสด็จในกรมฯ
และถ่ายทอดเรื่องราวของพระองค์ท่านให้อนุชนรุ่นหลังได้รับทราบ นับว่ามีประโยชน์ต่อสาธารณชน
ผมหวังว่าจะได้มีโอกาสอ่านงานของท่านสักวัน
และจะได้นำเรื่องราวที่ท่านแต่งไว้มาถ่ายทอดให้ทุกท่านได้ทราบครับ
แหล่งข้อมูลประกอบการเล่าเรื่อง
ศรัณย์ ทองปาน. (๒๕๖๓).
ให้โลกทั้งหลายเขาลือ : “เสด็จเตี่ย”
กรมหลวงชุมพรฯ. นนทบุรี :
สารคดี.



ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น