Chalermkiat Mina

วันอังคาร, มิถุนายน 13, 2566

มินามีเรื่องเล่า นกหัสดีลิงค์



ที่มาของภาพ https://th.wikipedia.org/wiki/:Phrae_Wat_Phra_That_Suthon_Mongkhon_Khiri_03.jpg

มินามีเรื่องเล่า นกหัสดีลิงค์

สวัสดีครับ ผมได้เคยเขียนถึงสัตว์หิมพานต์ ๓๖ ตัวมาแล้ว และหนึ่งในนั้นมีนกหัสดีลิงค์ ซึ่งเป็นนกที่มีตัวเป็นนก มีหัวเป็นช้าง หรืออาจมีหัวเป็นคชสีห์ มีงวงมีงาแบบช้าง หรือมีหัวเป็นนก มีจะงอยปากเป็นงวงช้าง มีปีกและหางเป็นนก บางที่เรียกว่า นกหัสดิน

วันนี้ขอเล่าตำนานเรื่องนกหัสดีลิงค์ นะครับ

สถานที่และตัวละครสำคัญ ก็คือ เมืองตักศิลา นกหัสดีลิงค์ พระยาตักศิลา พระอินทร์ นางสุชาดา นางสีดา

เรื่องราวเป็นอย่างไร มาดูกันครับ                                                              

ครั้งหนึ่ง มีเมืองชื่อว่า ตักศิลา มีพระยาตักศิลาและพระมเหสีครองเมือง พระยาตักศิลามีพระสนมจำนวนหนึ่งแสนคน แต่พระองค์ไม่มีพระโอรสหรือพระธิดาเพื่อสืบทอดราชบัลลังก์

พระองค์ทรงวิตกกังวลเรื่องนี้มาก ทรงเรียกพระมเหสีและพระสนมมาเข้าเฝ้า และทรงมีพระบรมราชโองการให้พระมเหสีและพระสนม รักษาศีล ๕ และศีล ๘ และสวดอ้อนวอนต่อพระอินทร์และเทวดาทั้งหลายเพื่อขอพระโอรสหรือพระธิดา

พระมเหสีและพระสนมต่างปฏิบัติบูชารักษาศีลตามที่พระยาตักศิลาทรงมีพระราชบัญชา

          พระมเหสีได้รักษาศีลและสวดอ้อนวอนต่อพระอินทร์ ทำให้พระอาสน์ของพระอินทร์ที่เคยอ่อนนุ่มกลับแข็งกระด้าง

          พระอินทร์ได้ยินคำสวดอ้อนวอน จึงเสด็จลงมายังโลกมนุษย์เพื่อดูว่ามีเหตุการณ์ใดที่ทำให้พระอาสน์ของพระองค์แข็งกระด้าง 

          ช่วงเวลานั้นมีนกหัสดีลิงค์ตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์ เจ้านกหัสดีลิงค์ตัวนี้ชอบบินมาสร้างความเดือดร้อนต่อมนุษย์และสัตว์โลก

          พระอินทร์ได้ขอให้พระมเหสีของพระองค์ชื่อ นางสุชาดา ลงมาจากสวรรค์และมาประสูติในครรภ์ของพระมเหสีของพระยาตักศิลา เพื่อจะได้ปราบนกหัสดีลิงค์ที่คอยเข็นฆ่ามนุษย์และสัตว์โลก และสร้างความเดือดร้อนมากมายในโลกมนุษย์

พระนางสุชาดา ทูลตอบพระสวามี

พระองค์ขอร้องให้หม่อมฉันไปเกิดในโลกมนุษย์และให้ไปปราบนกหัสดีลิงค์ แต่หม่อมฉันจะทำได้อย่างไรเพค่ะ

พระอินทร์ตรัสตอบพระมเหสี

“เมื่อพระน้องนางได้ไปเกิดในโลกมนุษย์ และเมื่อใดที่จะต่อสู้กับนกหัสดีลิงค์ ขอให้พระน้องนางสวดมนต์ขอพรต่อเสด็จพี่ แล้วเสด็จพี่จะส่งคันศรและธนูไปให้กับพระน้องนาง

          หลังจากนั้น นางสุชาดาไปจุติในครรภ์ของพระมเหสีของพระยาตักศิลา

          ก่อนที่จะมีประสูติกาลนั้น พระมเหสีทรงสุบินว่า มีแก้วมณีสีเหลืองอร่ามลอยมากลางอากาศ และลอยเข้าไปในพระโอษฐ์ พระนางกลืนแก้วมณีทองนั้นนั้นเข้าไปในท้องของพระนาง เมื่อพระนางหาวออกมา มีแสงสีทองสว่างไสวสาดส่องจากพระโอษฐ์สว่างไสวไปทั่วจักรวาล และต่อมาแสงสีทองนั้นจางหายไป ในพระสุบินนั้น พระมเหสีทรงเสียพระทัยที่แก้วมณีนั้นหายไป ทรงสะดุ้งตื่น

วันรุ่งขึ้น พระนางได้กราบทูลเล่าความฝันให้พระราชสามีทราบ พระยาตักศิลามีรับสั่งให้ตามตัวราชปุโรหิตมาโดยทันที เมื่อราชปุโรหิตมาถึง ยกมือถวายบังคม และกราบทูลถามพระยาตักศิลา  

ขอเดชะ พระองค์มีรับสั่งให้ตามตัวหม่อมฉันด้วยเหตุอันใดพ่ะย่ะค่ะ เกิดอะไรขึ้นพ่ะย่ะค่ะ

พระยาตักศิลาตรัสตอบ

ช่วงรุ่งสาง พระมเหสีทรงสุบินว่ามีแก้วมณีสีเหลืองอร่ามปรากฏขึ้นกลางอากาศและลอยเข้าไปในพระโอษฐ์ของพระนาง พระมเหสีได้กลืนแก้วมณีนั้นเข้าไป มีแสงสว่างไปทั่วโลก ท่านราชปุโรหิตทำนายความฝันให้เราทราบด้วยพระยาตักศิลามักจะให้ราชปุโรหิตทำนายเหตุการณ์ให้พระองค์ทราบเป็นประจำ

ราชปุโลหิตพิเคราะห์ความฝัน ได้กราบทูลพระยาตักศิลา

จากพระสุบินของพระราชินีนั้น พระนางจะมีประสูติกาลพระธิดาผู้มีบุญบารมีสูงส่ง และเมื่อพระธิดามีพระชนมายุได้ ๑๕ พระชันษา พระธิดาจะมีโชค ประสบความสุข และจะได้กลับคืนไปสู่สวรรค์ ถ้าคำทำนายของข้าพระองค์ผิดพลาดโปรดพระราชทานอภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ

ต่อมาพระราชินีทรงครรภ์ได้ ๙ เดือน ทรงมีประสูติกาลพระราชธิดาผู้ทรงสิริโฉมงดงาม พระราชบิดา พระราชมารดาและพสกนิกรต่างรักใคร่พระราชธิดาพระองค์นี้เป็นอย่างมาก หนึ่งปีต่อมาพระยาตักศิลาพระราชทานนามให้พระราชธิดาว่า สีดา

ในช่วงเวลา ๑๕ ปีนั้น กล่าวกันว่า นกหัสดีลิงค์บินไปมา เข่นฆ่าผู้คนและสัตว์จำนวนมาก โดยเฉพาะในเมืองตักศิลา

นกหัสดีลิงค์เป็นนกตัวใหญ่ มีงาและงวงเหมือนช้าง บรรดาชาวเมืองตักศิลาได้รับความเดือดร้อน ต่างรีบไปกราบทูลพระยาตักศิลา

ขอเดชะ นกใหญ่หัสดีลิงค์บินไปมาและกินมนุษย์และสัตว์จำนวนมาก ตอนนี้เหลือแต่พวกข้าพระองค์ พวกข้าพระองค์มากราบทูลขอให้พระองค์ช่วยเหลือพ่ะย่ะค่ะ

พระยาตักศิลาทรงวิตกกังวล ทรงมีพระบรมราชโองการเรียกประชุมเสนาอามาตย์ และทรงมีรับสั่งให้ตีฆ้องร้องป่าวไปทุกแห่งว่า พระยาตักศิลาจะมอบราชสมบัติครึ่งหนึ่งให้กับผู้ที่สามารถฆ่านกหัสดีลิงค์ได้  

บรรดาเสนาอำมาตย์ได้ตีฆ้องร้องป่าวไปทั่วหล้า แต่ไม่มีใครอาสาไปสังหารนกหัสดีลิงค์ พระยาตักศิลาทรงเศร้าพระราชหฤทัย

พระราชธิดาสีดาเห็นเช่นนั้นจึงกราบบังคมทูลและถามพระราชบิดา

พระราชบิดาไม่สบายพระราชหฤทัยด้วยเรื่องใด ทำไมพระราชบิดาจึงทรงเศร้าพระทัยมากเพค่ะ

 ลูกรัก พ่อเศร้าใจเพราะไพร่ฟ้าประชาชนมาขอให้พ่อช่วยพวกเขา มีนกหัสดีลิงค์ตัวใหญ่มหึมา มันมีงวงและงาเหมือนช้าง มันมากินมนุษย์และสัตว์จำนวนมาก ไม่มีใครอาสาไปฆ่านกหัสดีลิงค์ตัวนี้ 

พระราชธิดาสีดากราบทูลพระบิดา

ขอพระราชบิดาอย่าได้ทุกข์ใจและวิตกวิตกกังวลเลยเพค่ะ ลูกจะไปสังหารเจ้านกหัสดีลิงค์นี้ พระราชบิดาจะได้มีความสุขและพ้นจากความกังวลเพค่ะ

เมื่อได้ฟังพระราชธิดากล่าวเช่นนี้พระยาตักศิลาทรงมีพระทัยยินดีเป็นอย่างยิ่ง

เจ็ดวันต่อมา นกหัสดีลิงค์บินมายังลานใจกลางเมืองตักศิลา บรรดาผู้คนต่างเกรงกลัวเจ้านกยักษ์แห่งป่าหิมพานต์ตัวนี้ ต่างรีบพากันไปกราบทูลพระยาตักศิลา

“ขอเดชะ ตอนนี้เจ้านกหัสดีลิงค์บินมายังลานใจกลางเมือง พวกเกล้ากระหม่อมกลัวมาก ขอหลบภัยอยู่ใกล้พระองค์พ่ะย่ะค่ะ

เมื่อทราบเช่นนั้นพระยาตักศิลามีรับสั่งให้มหาดเล็กไปตามพระราชธิดาสีดา เมื่อพระราชธิดามาถึงพระยาตักศิลาตรัสกับพระราชธิดา

ลูกรัก เจ้านกหัสดีลิงค์บินมายังลานใจกลางเมือง ลูกไปสังหารมันได้ไหม

พระราชธิดาสีดาก้มกราบพระยาตักศิลา และกราบทูลต่อพระราชบิดา

นกหัสดีลิงค์นั้นมีพลังมาก ลูกจะสู้กับมันเพค่ะ แต่ลูกต้องเตรียมการต่อสู้เพื่อเอาชนะมันให้ได้

พระยาตักศิลาตรัสตอบ

ลูกเตรียมตัวตามที่ลูกปรารถนา จัดหาอาวุธยุทธภัณธ์ตามที่ลูกต้องการได้เลย 

พระราชธิดาสีดาทูลตอบพระราชบิดา

ลูกขอเครื่องประดับ ๕ อย่างจากพระราชบิดาเพค่ะ และขอเสนาบดีของพระองค์จำนวน ๔- คน รวมทั้งทหารพร้อมออกอาวุธ หอก ดาบ ปืน และเครื่องแต่งกายใหม่ ๆ รวมทั้งตะกร้าดอกไม้ ๒ ใบโดยมีการจัดเรียงดอกไม้ซ้อนกันเป็น ๗ ชั้น และเมื่อลูกจะไปต่อสู้นั้นขอให้พ่อพราหมณ์มาสวดมนต์พร้อมและถวายข้าวของบูชา

พระยาตักศิลามีรับสั่งให้พระราชินีและเสนาอำมาตย์ไปสวดมนต์อ้อนวอนต่อพระอินทร์เพื่อขอพระราชทานคันศรและธนู

เมื่อทุกคนร่วมสวดมนต์ ปรากฏว่าพระอาสน์ของพระอินทร์แข็งกระด้าง พระอินทร์เสด็จลงมาที่โลกมนุษย์และเห็นว่าพระราชธิดาสีดากำลังจะไปต่อสู้กับนกหัสดีลิงค์ พระองค์จึงประทานคันศรและธนูให้พระนางพร้อมตรัสอวยพรให้พระราชธิดาสีดาได้รับชัยชนะและกลับคืนไปสู่สวรรค์

พระราชธิดาสีดาจัดเตรียมยุทโธปกรณ์ พระยาตักศิลามีรับสั่งให้ให้พราหมณ์สวดมนต์และทำการบูชาเทพ โดยมีเสนามาตย์รวมทั้งหล่าทหารที่มีหอกดาบและปืนร่วมไปต่อสู้กับนกหัสดีลิงค์

เมื่อเห็นพระราชธิดาสีดามาพร้อมเหล่าทหาร เจ้านกหัสดีลิงค์มีจิตใจร่าเริง และพูดกับตัวเอง

ฉันจะมีมนุษย์ให้กินเป็นจำนวนมากแล้ว

นกหัสดีลิงค์กระพือปีกบินมาที่ลานใจกลางเมือง ส่งเสียงร้องคำราม อ้าปากพร้อมจะไล่กลืนกินมนุษย์ทุกคน พระราชธิดาสีดาถือคันธนูพร้อมคันศรเล็งไปที่นก ยิงไปที่หน้าอกของนกหัสดีลิงค์ ปรากฏว่าเจ้านกยักษ์ร่วงตกลงมาตาย

ชาวเมืองต่างร้องโห่ฉลองชัย ต่างมีความสุข ขบวนเสด็จของพระยาตักศิลามุ่งหน้ากลับคืนสู่พระนคร

เมื่อถึงพระนคร พระยาตักศิลาและเสนาอามาตย์ต่างชื่นชมยินดีในการต่อสู้ของพระราชธิดาสีดา และพระยาตักศิลาทรงพระราชทานราชอาณาจักรเครื่องหนึ่งให้พระราชธิดาสีดาครอบครอง

พระราชธิดาสีดาครองเมืองตักศิลาเป็นเวลา ๒ ปี หลังจากนั้นก็เสด็จขึ้นสู่สวรรค์กลับไปเป็นพระมเหสีของพระอินทร์ต่อไป

เป็นอย่างไรบ้างครับ น่าสนใจนะครับ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มินามีเรื่องเล่า กรมหลวงพิพิธมนตรี พระพันวัสสาน้อย Thai-English-French

  มินามีเรื่องเล่า กรมหลวงพิพิธมนตรี พระพันวัสสาน้อย Thai-English-French กรมหลวงพิพิธมนตรี (พระพันวัสสาน้อย) เป็นพระอัครมเหสีน้อยของสมเด็จพ...