Chalermkiat Mina

วันศุกร์, มิถุนายน 23, 2566

มินามีเรื่องเล่า พระธาตุนารายณ์เจงเวง สกลนคร



มินามีเรื่องเล่า พระธาตุนารายณ์เจงเวง สกลนคร

          ถ้ามีการแข่งขันกันระหว่างฝ่ายชายกับฝ่ายหญิง ท่านคิดว่าใครจะชนะครับ

          สวัสดีครับ วันนี้ขอนำเรื่องการเดินทางไปนมัสการพระธาตุนารายณ์เจงเวง ในวัดบ้านธาตุนาเวง จังหวัดสกลนคร เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๕ มาเล่าสู่กันฟังครับ

          เรื่องราวของการสร้างพระธาตุนารายณ์เจงเวงนี้ตรงกับช่วงเวลาของการสร้างพระธาตุพนมนะครับ





          เล่าเรื่องพระธาตุนารายณ์เจงเวงต้องกล่าวถึงพระธาตุภูเพ็กด้วยนะครับ ปัจจุบันพระธาตุภูเพ็ก ตั้งอยู่ที่บ้านนาหัวบ่อ อำเภอพรรณนานิคม นะครับ

          ว่าแต่ว่ามีการแข่งขันเรื่องใดกันเกี่ยวกับพระธาตุนารายณ์เจงเวงและพระธาตุภูเพ็ก มาตามฟังกันครับ

          เรื่องมีอยู่ว่า หลังจากที่พระพุทธเจ้าได้ปรินิพพานแล้ว พระยาสุวรรณภิงคาร เจ้าเมืองหนองหารหลวง ทรงทราบข่าวว่า พระมหากัสสปะกับพระอรหันต์รวม ๕๐๐ รูป จะอัญเชิญพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ของพระพุทธเจ้ามาประดิษฐานบรรจุไว้ที่ภูกำพร้า (คือพระธาตุพนมในปัจจุบันครับ)





          พญาสุวรรณภิงคารทรงปรึกษาหารือกับเสนาอำมาตย์และข้าราชบริพารว่าควรจะสร้างพระอุโมงค์ (พระธาตุ) ไว้รอพระอุรังคธาตุ และสถาปนาพระอุโมงค์ไว้เป็นที่สักการะบูชา สืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป

          บรรดาเสนาอามาตย์และข้าราชบริพารต่างเห็นชอบในการสร้างพระอุโมงค์ แต่จะใช้สถานที่ใดในการก่อสร้าง ต่างแบ่งแยกความคิดออกเป็น ๒ ฝ่าย ตามเนื้อเรื่องนั้น แบ่งเป็นฝ่ายชายและฝ่ายหญิงนะครับ

ฝ่ายชายพอใจที่จะให้ก่อสร้างพระอุโมงค์ (พระธาตุ) ที่ดอยคูหา ซึ่งเป็นพระแท่นบัลลังก์ที่พระพุทธเจ้าได้เคยเสด็จมาประทับบรรทมครั้งหนึ่ง





          แต่ฝ่ายหญิง ซึ่งมีพระนางเจ้าจรวยเจงเวง พระราชเทวีของพญาสุวรรณภิงคารทรงเป็นประธาน พระนางเจ้าจรวยเจงเวงทรงพอพระทัยที่จะก่อพระอุโมงค์ ไว้ที่สวนอุทยานเจงเวง เพื่อสะดวกแก่การไปนมัสการบูชาพระบรมธาตุได้ทุกฤดูกาล

          ถามว่าแนวคิดของใครชนะครับ ท่านผู้ชายคงตอบได้นะครับ พญาสุวรรณภิงคารทรงอนุญาตตามประสงค์ของพระราชเทวี 

          แต่ก็เป็นเสมือนที่เรากล่าวกันติดตลกในปัจจุบันนะครับ เมื่อความคิดเห็นไม่ตรงกัน การพนัน เออ ไม่ใช่ครับ การแข่งขันย่อมเกิดขึ้น

          ข่าวการแข่งขันแพร่ออกจากวังสู่ถนนหนทาง ประชาชนต่างพูดจากัน ต่างฝ่ายต่างกล่าวเกทับกัน ฝ่ายชายก็ว่าพระอุโมงค์ ของพวกเขาที่ดอยคูหาจะต้องเสร็จก่อนแน่นอน ฝ่ายสตรีมองค้อน กล่าวว่าพระอุโมงค์ที่สวนอุทยานเจงเวงของพระราชเทวีต้องเสร็จก่อนแน่นอน

          ต่างฝ่ายต่างมีข้อตกลงว่า เมื่อรวมอิฐหินปูนพอแล้วจะเริ่มก่อพระอุโมงค์ (พระธาตุ) เมื่อใดก็แจ้งหรือส่งสัญญาณให้ทราบ โดยมีกรอบเวลาในการสร้าง คือให้เสร็จภายในวันกับคืนหนึ่งเป็นอย่างช้า นับว่าเป็นงานสร้างที่ใช้เวลารวดเร็วมากกว่ายุคปัจจุบันอีกนะครับ

          ข้อตกลงมีว่า ถ้าฝ่ายใดก่อพระอุโมงค์เสร็จภายในเวลาที่ดาวเพ็ก (ดาวกัลปพฤกษ์) โผล่ออกพ้นเขายุคนธร ให้ถือว่าฝ่ายนั้นชนะ 

          เมื่อได้สัญญากันแล้วต่างฝ่ายต่างลงมือก่อพระอุโมงค์ (พระธาตุ)

          ครั้นเวลากลางคืน พระนางเจ้าจรวยเจงเวงโปรดให้ชักประทีปโคมไฟขึ้นไว้บนยอดไม้เขาสูง เพื่อให้แสงสว่างเห็นทั่วกัน จะได้ทำการก่อสร้างสะดวก

          ฝ่ายพวกผู้ชายมีหรือจะใจจืดใจดำกับภรรยาของตนเอง มักจะแอบลักลอบหนีไปช่วยภรรยาของตัวเองนะครับ ดังนั้นพระอุโมงค์ (พระธาตุ) ของฝ่ายหญิงจึงเสร็จก่อน

          ส่วนพวกผู้ชายที่ก้มหน้าก้มตาก่อพระอุโมงค์อยู่บนยอดเขาดอยคูหา พากันก่อพระอุโมงค์ขึ้นไปได้เพียงขื่อเท่านั้น พอมองเห็นแสงประทีปโคมไฟบนยอดไม้สูง ก็สำคัญว่าดาวเพ็กโผล่ออกมาแล้ว ต่างพากันหยุดก่อสร้าง ไม่รู้ว่าเจตนาหยุดหรือเปล่านะครับ

          ฝ่ายหญิงก่อพระอุโมงค์ (พระธาตุ) จากเวลากลางวันจนถึงค่ำคืน และพอย่ำรุ่งก็สำเร็จตามสัญญา

          พอรุ่งขึ้นพระมหากัสสปะกับพระอรหันต์ ๕๐๐ องค์เป็นบริวาร ได้อัญเชิญพระอุรังคธาตุของพระพุทธเจ้ามาถึงดอยคูหา

          พญาสุวรรณภิงคารกับพระนางเจ้าจรวยเจงเวงราชเทวีทรงขอแบ่งพระอุรังคธาตุของพระพุทธเจ้าเพื่อจะสถาปนาไว้ที่พระอุโมงค์ (พระธาตุ) เพื่อสักการะบูชา

          พระมหากัสสปะกล่าวว่า ที่นี่ไม่ใช่ภูกำพร้า จะแบ่งพระอุรังคธาตุไว้ ก็จะผิดจากพระพุทธวจนะ (คำกล่าวของพระพุทธเจ้า) ที่ได้สั่งไว้ และจะไม่เป็นมงคลแก่พญาสุวรรณภิงคาร

          พระมหากัสสปะท่านมีเมตตา จึงให้พระอรหันต์บริวารกลับไปเอาพระอังคารของพระพุทธเจ้ามาบรรจุไว้ที่พระอุโมงค์ดอยคูหา และตั้งชื่อพระอุโมงค์ที่ดอยคูหาว่า พระธาตุภูเพ็ก  

          ส่วนพระอุโมค์ของพระนางเจ้าจรวยเจงเวง ได้บรรจุพระอังคารของพระพุทธเจ้า ได้นามว่า พระธาตุเจงเวง หรือ พระธาตุนารายณ์เจงเวง ตั้งชื่อตามพระนามของพระนางซึ่งเป็นต้นศรัทธา นะครับ

          สรุปว่าท่านต้องมีเวลาไปนมัสการพระธาตุนารายณ์เจงเวงและพระธาตุภูเพ็กกันนะครับ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มินามีเรื่องเล่า กรมหลวงพิพิธมนตรี พระพันวัสสาน้อย Thai-English-French

  มินามีเรื่องเล่า กรมหลวงพิพิธมนตรี พระพันวัสสาน้อย Thai-English-French กรมหลวงพิพิธมนตรี (พระพันวัสสาน้อย) เป็นพระอัครมเหสีน้อยของสมเด็จพ...