Chalermkiat Mina

วันอาทิตย์, เมษายน 23, 2566

มินามีเรื่องเล่า ศาลหลักเมืองจังหวัดพัทลุง Th/ENG/FR

มินามีเรื่องเล่า ศาลหลักเมืองจังหวัดพัทลุง Th/ENG/FR

          สวัสดีครับ วันนี้ขออนุญาตเล่าเรืองศาลหลักเมืองจังหวัดพัทลุงนะครับ

ก่อนอื่นมีคำถามที่ว่า ศาลหลักเมืองมีความสำคัญอย่างไร

          ตามประเพณีโบราณแล้ว ท่านนิยมสร้างหลักเมืองไว้เป็นมิ่งขวัญ เป็นนิมิตมงคล สำหรับให้ผู้คนได้รู้ว่าหลักบ้านหลักเมืองอยู่ที่ไหน ประชาชนบ้านเมืองนั้นย่อมอยู่ร่มเย็นเป็นสุข เพราะมีเทพรักษาเมือง ได้แก่ พระทรงเมือง พระเสื้อเมือง เทวดา และเทพารักษ์ทั้งหลาย

          ท่านสร้างศาลหลักเมืองไว้ที่ใด

          หลักเมืองต้องฝังไว้ในย่านกลางเมืองหรือให้ทำเลที่ชัยภูมิตามทิศทางของเมือง และในสมัยโบราณ เมืองเอกหรือเมืองชั้นราชธานีจะต้องมีหลักเมืองไว้เป็นนิมิตมงคลสำหรับเมืองทุกเมือง 

          เมืองพัทลุงเคยมีศาลหลักเมืองไหมครับ

          เมืองพัทลุงเป็นเมืองโบราณที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน แม้จะเคยมีหลักเมืองเป็นศูนย์กลางของเมืองมาก่อน แต่มีการย้ายเมืองมาตลอด

          จากหลักฐานของราชการ เมืองพัทลุงคือเมืองสทิงพาราณสี ซึ่งต่อมาถูกรุกรานจากโจรสลัดมลายูบ่อยครั้ง ทำให้อ่อนกำลังลง ผู้คนจึงอพยพข้ามทะเลสาบไปก่อตั้งชุมชนขึ้นใหม่ที่โคกเมืองบางแก้ว เรื่องนี้เกี่ยวกับตำนานนางเลือดขาว ซึ่งจะเล่าให้ฟังต่อไปครับ

 

 

          ต่อมาได้เกิดการปกครองระบบกินเมือง เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงตัวเจ้าเมืองก็มักจะย้ายที่ตั้งเมืองไปตามความพอใจของเจ้าเมืองเมืองพัทลุง

          ดังนั้นเมืองพัทลุงจึงมีการย้ายเมืองหลายครั้ง โดยเริ่มจาก ๑. บ้านบางแก้ว ๒. ควนแร่ ๓. เขาเมือง ๔. เมืองท่าเสม็ด ๕. บ้านควนมะพร้าว ๖. บ้านม่วง ๗. โคกลุง ๘. ศาลาโต๊ะวัก จนย้ายมาตั้งที่ตรงบริเวณฝั่งเหนือคลองลำปำ หลังจากนั้นได้ย้ายมาอยู่ที่ตรงบริเวณวังเก่าวังใหม่

          ปี พ.ศ. ๒๔๖๖ ได้มีการย้ายเมืองมาอยู่ที่ตำบลคูหาสวรรค์  แต่ยังไม่มีการสร้างศาลหลักเมืองแต่อย่างใด

          เริ่มสร้างหลักเมืองเมื่อไรครับ

          เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๘ – ๒๕๓๙ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงในขณะนั้น คือนายประสิทธิ์ พรรณพิสุทธิ์ และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันก่อสร้างศาลหลักเมืองพัทลุง ณ บริเวณสวนสาธารณะตำบลคูหาสวรรค์ อำเภอเมืองพัทลุง และได้รับพระบรมราชานุญาตให้สร้างหลักเมืองประจำจังหวัดพัทลุงได้ แต่ไม่สามารถก่อสร้างให้แล้วเสร็จได้

          ได้มีการสร้างศาลหลักเมืองใหม่เมื่อใด

 

          ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓  นายวินัย ครุวรรณพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงและผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ได้ดำเนินการจัดสร้างศาลหลักเมืองพัทลุงขึ้นอีกครั้ง 

          ที่ประชุมได้เลือกสถานที่บริเวณวัดควนปรง หมู่ที่ ๒ ตำบลท่ามิหรำ อำเภอเมืองพัทลุง เป็นสถานที่สร้างศาลหลักเมืองพัทลุง เนื่องจากมีทำเลเหมาะสม อยู่บริเวณเนินสูง สวยงาม เส้นทางคมนาคมสะดวก และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในอดีต 

          ขั้นตอนการดำเนินการสร้างเป็นอย่างไร

          ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ทำเรื่องขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต จากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อจัดสร้างศาลหลักมืองประจำจังหวัดพัทลุง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี

          เมื่อได้รับพระบรมราชานุญาตแล้ว จึงได้จัดสร้างศาลหลักเมือง และเสาหลักเมือง ประจำจังหวัดพัทลุง โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๓ และแล้วเสร็จในปี พ.ศ. ๒๕๕๔

          ต่อมาได้มีการปรับปรุงองค์ประกอบของศาลหลักเมืองเพิ่มเติม โดยก่อสร้างบันไดทางขึ้นศาลหลักเมือง ระบบไฟฟ้าส่องสว่าง รวมถึงปรับปรุงทัศนียภาพบริเวณโดยรอบศาลหลักเมือง เสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๖๒
          รายละเอียดของศาลหลักเมืองเป็นอย่างไรครับ      

          ศาลหลักเมืองพัทลุงอยู่ด้านทิศใต้ของวัดควนปรง หมู่ที่ ๒ ตำบลท่ามิหรำ อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง ผู้ออกแบบสร้างศาลหลักเมืองนี้คือ รศ.ดร.ภิญโญ สุวรรณคีรี ศิลปินแห่งชาติราชบัณฑิตสำนักศิลปกรรม

          พื้นที่สร้างมีขนาด กว้าง ๒๕ เมตร ยาว ๓๐ เมตร อาคารประธานอยู่ตรงกลาง ขนาดกว้าง ๘ เมตร ยาว ๘ เมตร สูงจากระดับพื้นดิน ๑๕.๗๙ เมตร

          ด้านซ้ายของอาคารประธาน เป็นศาลาจำหน่ายดอกไม้ ธูปเทียน มีบันไดขึ้นจากด้านทิศเหนือ เป็นสถาปัตยกรรมไทยรูปทรง

จตุรมุข หลังคาซ้อนชั้นสองชั้น

          เสาหลักเมืองทำด้วยไม้ราชพฤกษ์ เป็นไม้มงคล ได้รับบริจาคมาจากวัดเขาเจียก มอบหมายให้เรือนจำกลางพัทลุง แกะสลักเป็นเสาหลักเมือง

          เมื่อวันศุกร์ที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๓ จังหวัดพัทลุงได้ทำพิธีอัญเชิญเสาหลักเมืองมาประดิษฐานคู่กับเสาหลักเมืองพัทลุง

          วันเสาร์ที่ ๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๓ ได้มีการทำพิธีปลุกเสกเสาหลักเมือง แผ่นยันต์สยมภูว์ และดินทั้ง ๔ ทิศ

          วันอาทิตย์ที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๓ มีพิธีอัญเชิญเสาหลักเมืองประดิษฐาน โดยพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ

       


           เมื่อวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๓ เวลา ๑๘.๐๔ น.พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ  และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงประกอบพิธีเปิดศาลหลักเมืองพัทลุง ณ ศาลหลักเมืองพัทลุง ตำบลท่ามิหรำ อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง โดยมีรายละเอียดดังนี้

          เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงศาลหลักเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง เสด็จเข้าพลับพลาพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดรูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธนวราชบพิตร ทรงศีล พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายฉัตรชัย อุตสาหะ และนางปราณี รัตนประยูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ทูลกล้า ฯ ถวายสูจิบัตรและหนังสือที่ระลึก พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์ และความป็นมาของศาลหลักเมืองพัทลุง พร้อมทั้งขอพระราชทานกราบบังคมทูลเชิญเสด็จทรงประกอบพิธีเปิดศาลหลักเมืองพัทลุง ตามลำดับ

          จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมแผ่นยันต์ ทรงม้วนแผ่นยันต์แล้วสวมแหวนนพรัตน์ที่ม้วนยันต์ พระราชทานแผ่นยันต์ที่จะบรรจุหัวเม็ดทรงมัณฑ์ คืนเจ้าพนักงานภูษามาลา เสด็จออกจากพลับพลาพิธี ไปยังภายในศาลหลักเมืองพัทลุง ทรงหยิบแผ่นยันต์ แล้วทรงบรรจุลงที่หัวเม็ดทรงมัณฑ์ ทรงสวมยอดหัวเม็ดทรงมัณฑ์ที่ยอดเสาศาลหลักเมือง ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิม ทรงปิดทอง ทรงผูกผ้าสีชมพู แล้วทรงคล้องพวงมาลัยเสาหลักเมือง
          พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะศาลหลักเมืองพัทลุง เสด็จ ฯ ไปยังบริเวณที่ปลูกต้นไม้ ทรงปลูกต้นพะยอมอันเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดพัทลุง จำนวน ๒ ต้น เสร็จแล้วเสด็จ ฯ เข้าพลับพลาพิธี ทรงประเคนตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก (พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก)
          จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กราบบังคมทูลเบิกผู้มีอุปการคุณในการบูรณะซ่อมแชมศาลหลักเมืองพัทลุง เข้าเฝ้า ฯ รับพระราชทานของที่ระลึกจำนวน ๑๐๐ ราย ตามลำดับ
************

The City Pillar Shrine of Phatthalung

          The city pillar is considered as the most important center of souls for the citizens. We can find the city pillars in all cities. In the past, Phatthalung city had been founded in many places: Ban Bangkaeo, Khuanrae, Khao Mueang, Mueang Tha Samet, Ban Khuan Maphrao, Ban Muang, Khok Lung, Sala Towak, Wang Kao Wang Mai in the north of Lumpum Canal and the present area of Kuhasawan. The city pillar shrine is not in built.

In 2010, The governor and the people of Phatthalung found a suitable place for having the city pillar shrine constructed, the hill near Khuan Prong Temple of Tha Miram Sub-district, Mueang District, Phatthalung. The shrine construction was begun on 18th June, 2010. The project was completed in 2011.

          On 28th November 2021, His Majesty King Maha Vajiralongkorn Phra Vajiraklaochaoyuhua and Her Majesty the Queen Suthida Bajrasudhabimalalakshana presided over the shrine inauguration ceremony. Phatthalung people rejoiced at this auspicious event.

          On your next visit to Phatthalung, come and worship the City Pillar and appreciate a panoramic view of the city.

****************         

Le sanctuaire du pilier de la ville de Phatthalung

            Le pilier de la ville est considéré comme le centre d'âmes le plus important pour les habitants.

            Le pilier de la ville est installé au centre de la ville. Dans le passé, la ville de Phatthalung avait été fondée dans de nombreux endroits : Ban Bang Kaeo, Khuan Rae, Khao Mueang, Mueang Tha Samet, Ban Khuan Maphrao, Ban Muang, Khok Lung, Sala Towak, Wang Kao Wang Mai au nord du canal Lumpum et la zone actuelle de Kuhasawan. Néanmoins, le sanctuaire abritant le pilier de la ville n'est pas encore construit.

            En 2010, le gouverneur et les habitants de Phatthalung ont trouvé un endroit approprié pour faire construire le sanctuaire du pilier de la ville. C’est la colline situant au sud du temple Khuan Prong, sous-district de Tha Miram, district de Mueang, Phatthalung. La construction du sanctuaire a débuté le 18 juin 2010. L'achèvement du projet a eu lieu en 2011.

            Le 28 novembre 2021, Sa Majesté le Roi Maha Vajiralongkorn Phra Vajiraklaochaoyuhua et Sa Majesté la Reine Suthida Bajrasudhabimalalakshana ont présidé la cérémonie d'inauguration du sanctuaire. Les gens de Phatthalung se sont réjouis de cet événement de bon augure. 

            Lors de votre prochaine visite à Phatthalung, n’oubliez pas de venir vénérer le pilier de la ville et admirer une vue panoramique de la ville. 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มินามีเรื่องเล่า กรมหลวงพิพิธมนตรี พระพันวัสสาน้อย Thai-English-French

  มินามีเรื่องเล่า กรมหลวงพิพิธมนตรี พระพันวัสสาน้อย Thai-English-French กรมหลวงพิพิธมนตรี (พระพันวัสสาน้อย) เป็นพระอัครมเหสีน้อยของสมเด็จพ...