มินามีเรื่องเล่า สาเกตนคร ตอนที่ ๔
สวัสดีครับ
เล่าเรื่องเมืองสาเกตนครหรือเมืองร้อยเอ็ดของเรามาถึงตอนที่ ๔ นะครับ
วันนี้จะกล่าวถึงการปกครองเมืองของลูกหลานพระขัติยวงษา
(ท้าวทนต์) เจ้าเมืองร้อยเอ็ดคนที่ ๑ นะครับ
ก่อนอื่นต้องขอบอกอีกครั้งว่า
การเล่าเรื่องนั้นต้องมีหลักการเน้น ย้ำ ซ้ำ ทวน นะครับ ไม่ใช่อะไรหรอกครับ
ผู้เล่าเองต้องใช้หลักการนี้บ่อยๆ มิฉะนั้น จะหลงลืมเสมอ
เรารู้ว่า พระขัติยวงษา
(ท้าวทนต์) เป็นเจ้าเมืองร้อยเอ็ดคนที่ ๑ เมื่อท่านถึงแก่กรรม
บุตรชายของท่านคือท้าวสีลัง ได้เป็นพระขัติยวงษา (ท้าวสีลัง) เจ้าเมืองร้อยเอ็ดคนที่สอง
พระขัติยวงษา
(ท้าวสีลัง)
มีบุตร ๔ คน ได้แก่ พระพิไสยสุริยวงศ์ อุปฮาดสิงห์ ท้าวจอมและราชวงศ์อินทร์
พระพิไสยสุริยวงศ์ท่านเป็นพี่ชายต่างมารดากับอุปฮาดสิงห์
ท้าวจอมและราชวงศ์อินทร์นะครับ
พระยาขัติยวงษา (ท้าวสีลัง) เจ้าเมืองร้อยเอ็ดคนที่ ๒ ถึงแก่กรรมในปี พ.ศ. ๒๓๘๙ ตรงกับสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
ราชวงศ์อินทร์
(หรือท้าวอินทร์) บุตรของท้าวสีลังได้รับการโปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวให้เป็นพระขัติยวงษา
(ท้าวอินทร์) เจ้าเมืองร้อยเอ็ดคนที่ ๓ ต่อจากพระขัติยวงษา (ท้าวสีลัง) ในปี
พ.ศ. ๒๓๙๒
ท่านอาจจะมีคำถามว่า
พระขัติยวงษา (ท้าวสีลัง) เสียชีวิตในปี พ.ศ. ๒๓๘๙ แต่มีการแต่งตั้งราชวงศ์อินทร์
(ท้าวอินทร์) ให้เป็นเจ้าเมืองในปี พ.ศ. ๒๓๙๒
ท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมเป็นท้าวอินทร์
ทำไมไม่เป็นพระพิไสยสุริยวงศ์ พี่ชายคนโตล่ะครับ
เรื่องนี้มีประเด็น
พระพิไสยสุริยวงศ์ หรือที่เรียกว่า เจ้าตาดี หรือเจ้าโพนแพง ท่านไปเป็นเจ้าเมืองโพนพิสัย
ท่านมาเสียชีวิตที่เมืองร้อยเอ็ดครับ
เกิดอะไรขึ้น
เมื่อทราบข่าวว่าพระขัติยวงษา
(ท้าวสีลัง) ผู้เป็นบิดาถึงแก่กรรม พระพิไสยสุริยวงศ์ ได้เดินทางมาจัดการปลงศพบิดาที่เมืองร้อยเอ็ด
พระพิไสยสุริยวงศ์ พร้อมด้วยอุปฮาดสิงห์ (ท้าวสิงห์) และราชวงศ์อินทร์
(ท้าวอินทร์) ซึ่งทั้งสองท่านเป็นน้องชายต่างมารดาของพระพิไสยสุริยวงศ์
ทั้งสามท่านได้เดินทางไปเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
ที่กรุงเทพฯ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าให้พระพิไสยสุริยวงศ์กลับไปรักษาราชการเมืองร้อยเอ็ดอยู่ก่อน
พระพิไสยสุริยวงศ์กลับมาที่เมืองร้อยเอ็ดและจัดการเผาศพบิดาเสร็จแล้ว
คืนวันหนึ่ง อุปราชสิงห์ ตั้งบ่อนโป นัดให้พระพิไสยสุริยวงศ์
กับพวกนักเลงมาเล่นที่หอนั่งบ้านพระยาขัติยวงศา (ท้าวสีลัง)
ครั้นเวลาดึกมีคนลอบแทงพระพิไสยสุริยวงศ์ถูกที่สีข้างซ้าย
ท่านถึงแก่กรรม สอบถามได้ความว่าอุปฮาดสิงห์เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
ครั้นความทราบถึงกรุงเทพฯ
จึงมีตราโปรดเกล้าฯ ให้พระรัตนวงษา (ภู) เจ้าเมืองสุวรรณภูมิ
ส่งตัวอุปฮาดสิงห์และบรรดาบุตรหลานพระยาขัติยวงษา (ท้าวสีลัง) ลงมากรุงเทพฯ
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ
ให้มีตุลาการชำระความอุปฮาดสิงห์ พิจารณาได้ความว่า อุปฮาดสิงห์
เป็นผู้ใช้จีนจั้นแทงพระพิไสยสุริยวงศ์ อุปฮาดสิงห์ต้องถูกคุมขังและเสียชีวิต
ในช่วงเวลานั้นจึงยังไม่ได้โปรดเกล้าฯ
แต่งตั้งเจ้าเมืองร้อยเอ็ด
ในปี พ.ศ. ๒๓๙๒
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงใด้ทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ราชวงศ์อินทร์
เป็นพระขัติยวงษา (ท้าวอินทร์) เจ้าเมืองร้อยเอ็ดคนที่ ๓ ต่อไป
ตอนต่อไปผมจะกล่าวถึงตำแหน่งอุปฮาด ราชวงศ์และราชบุตรนะครับ ว่ามีความเป็นมาอย่างไร
***************
แหล่งข้อมูลประกอบการเล่าเรื่อง
เติม วิภาคย์พจนกิจ.
๒๕๓๐. ประวัติศาสตร์อีสาน ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๒. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น