มินามีเรื่องเล่า พระยานรินทร์สงคราม (ทองคำ) เจ้าจอมปากช่องภูเวียง
“เรามิใช่ข้าสองเจ้า บ่าวสองนาย”
สวัสดีครับ ท่านที่เดินทางไปอำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น ตามเส้นทางจากอำเภอภูเวียงไปยังอำเภอเวียงเก่า มีศาลเจ้าตั้งอยู่ริมถนน ยวดยานพาหนะผ่านไปมาต่างกดแตรเพื่อเคารพและแสดงความนับถือต่อศาลเจ้าแห่งนั้น
ครับ ผมกำลังพูดถึงศาลเจ้าจอม หรือศาลปู่จอม นะครับเป็นศาลที่สร้างขึ้นเพื่อเทิดทูนพระยานรินทร์สงคราม (ทองคำ) นะครับ
พระยานรินทร์สงคราม (ทองคำ) ท่านเป็นใคร สำคัญอย่างไร มาฟังเรื่องเล่าจากมินากันนะครับ
พระยานรินทร์สงคราม ชื่อเดิมของท่านคือ ทองคำ บิดาของท่านมีชื่อว่า คำ เป็นชาวลาวอพยพมาจากเมืองเวียงจันทน์สมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี นะครับ
อย่าเพิ่งงุนงงหรือสงสัยนะครับ ผมจะเล่าเรื่องของสองพ่อลูก ท่านแรกเป็นบิดา ชื่อคำ ต่อมาได้เป็นพระยานรินทร์สงคราม (คำ) ส่วนท่านที่สองเป็นบุตรชาย ชื่อทองคำ ต่อมาดำรงตำแหน่งพระยานรินทร์สงคราม (ทองคำ) นะครับ
มาดูเรื่องของบิดาก่อนนะครับ นายคำได้อพยพมาตั้งถิ่นฐานที่บ้านนารายณ์ ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ที่ ต.พลกรี้ง อ.เมือง จ.นครราชสีมา
นายคำเป็นคนมีวิชาอาคม จึงเป็นที่เคารพของบรรดาชาวบ้านนารายณ์ ต่างยกย่องให้เป็นอาจารย์คำ
ปีพุทธศักราช ๒๓๑๐ กรุงศรีอยุธยาแตก สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงกอบกู้เอกราชโดยทรงปราบปรามก๊กต่าง ๆ และได้ชัยชนะตามลำดับ
ในปีพุทธศักราช ๒๓๑๓ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงยกพลขึ้นมาปราบก๊กเจ้าพิมาย ซึ่งมีกรมหมื่นเทพพิพิธเป็นหัวหน้าก๊กนะครับ
อาจารย์คำพร้อมชาวบ้านนารายณ์ได้เข้าสวามิภักดิ์ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และร่วมปราบปรามก๊กเจ้าพิมายจนได้รับชัยชนะ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงปูนบำเหน็จความชอบให้อาจารย์คำ โดยทรงแต่งตั้งให้เป็นพระยานรินทร์สงคราม (คำ) เจ้าเมืองสี่มุม (จตุรัส) คนแรก ให้ขึ้นตรงต่อเมืองนครราชสีมา ครับ
ต่อมาพระยานรินทร์สงคราม (คำ) ถึงแก่กรรม ทางการจึงแต่งตั้งลูกชายของท่าน คือนายทองคำ เป็นพระยานรินทร์สงคราม (ทองคำ) แทนบิดา นับเป็นเจ้าเมืองสี่มุมคนที่สอง นะครับ
ในปีพุทธศักราช ๒๓๖๙ ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เจ้าอนุวงศ์แห่งเมืองเวียงจันทน์ก่อการกบฏ ได้ยกกองทัพมาบังคับหัวเมืองต่าง ๆ ในภาคอีสานให้เข้าร่วมต่อต้านไทย เจ้าเมืองใดที่ไม่เข้าร่วมกับเจ้าอนุวงศ์จะต้องถูกประหารชีวิต
พระยานรินทร์สงคราม (ทองคำ) เห็นว่า ถ้าตนไม่เข้าร่วมกับเจ้าอนุวงศ์ บรรดาครอบครัว ญาติพี่น้องตลอดจนไพร่พลจะต้องตายหมด
ท่านจึงยอมสวามิภักดิ์ โดยเจ้าอนุวงศ์ได้แต่งตั้งพระยานรินทร์สงคราม (ทองคำ) ให้เป็นแม่ทัพค่ายหนองบัวลำภู คุมไพร่พล ๓,๐๐๐ คน
พระยานรินทร์สงคราม (ทองคำ) ได้รับฉายาว่า “เจ้าจอมปากช่องภูเวียง” เนื่องจากท่านเป็นผู้มีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว สามารถต่อสู้กับกองทัพไทยจนกระทั่งตนเองเหลือพลทหารอยู่เคียงข้างเพียง ๖ คน
ในที่สุดพระยานรินทร์สงคราม (ทองคำ) ถูกทหารไทยล้อมจับและนำตัวส่งแม่ทัพไทย คือกรมพระราชวังบวรศักดิพลเสพ
พระองค์ทรงมีรับสั่งให้หลวงโยธาบริรักษ์คุมตัวพระยานรินทร์สงคราม (ทองคำ) ไปขังในค่ายหลวง และทรงให้พระยา นคราถามพระยานรินทร์สงคราม (ทองคำ) ว่า จะยอมสวามิภักดิ์ต่อฝ่ายไทยหรือไม่ ถ้ายอมสวามิภักดฺิ์จะทรงชุบเลี้ยงให้ตำแหน่งทางการทหาร
แต่พระยานรินทร์สงครามปฏิเสธข้อเสนอโดยบอกว่า ไม่ยอมเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนาย และได้สาบานตนไว้แล้วว่าจะซื่อสัตย์ต่อเจ้าอนุวงศ์พระองค์เดียวเท่านั้น
พระยานรินทร์สงครามจึงถูกนำตัวไปประหารชีวิต
แต่เนื่องจากพระยานรินทร์สงครามเป็นผู้มีวิทยาคม ท่านได้รับการถ่ายทอดวิทยาคมจากอาจารย์คำผู้เป็นบิดา โดยเฉพาะในเรื่องการอยู่ยงคงกระพันชาตรี หนังเหนียว กำบังหายตัวได้ ทำให้เพชฌฆาตไม่สามารถสังหารท่านได้ นะครับ
ความกล้าหาญของพระยานรินทร์สงครามแสดงให้เห็นตอนที่ท่านจะถูกประหารชีวิต ท่านได้บอกแก่เพชฌฆาตว่า ถ้าจะประหารชีวิตโดยการยิง หรือใช้ดาบตัดคอ หรือแทงด้วยอาวุธทุกอย่าง จะไม่ระคายเคืองผิวหนังของท่าน
มีเพียง ๒ วิธีเท่านั้นที่จะสำเร็จโทษท่านได้ คือโดยวิธีผูกตัวท่านติดกับต้นไม้แล้วใช้ช้างแทงร่าง หรือโดยการใช้ไม้แหลมคมแทงเข้าทางรูทวารหนักจนทะลุถึงสมอง
แม่ทัพไทยเห็นว่าไม่สมควรใช้วิธีการที่สอง เนื่องจากพระยานรินทร์สงคราม (ทองคำ) มีศักดิ์ศรี เป็นชายชาติทหาร อีกทั้งมีตำแหน่งเป็นถึงแม่ทัพ ดังนั้นแม่ทัพไทยจึงสั่งให้พระคชภักดีไสช้างเข้าแทงพระยานรินทร์สงครามถึงแก่ความตายทันทีที่ต้นยางใหญ่ตรงหน้าค่าย ต่อหน้าแม่ทัพไทยอย่างสมเกียรติ
เล่ากันว่าตอนสำเร็จโทษพระยานรินทร์สงคราม พระคชภักดีไสช้างเข้าแทงร่างท่าน เกิดปาฏิหาริย์ คือแทนที่ช้างจะแทงร่างตามคำสั่ง ช้างกลับหมอบลง แม้ว่าพระคชภักดีจะใช้ขอสับจนพญาช้างลุกขึ้นเปล่งเสียงร้องอย่างโหยหวน แล้วจึงเข้าแทงพญานรินทร์สงครามจนงาทะลุหักคาต้นยางใหญ่ แล้ววิ่งสะลัดควาญช้างเข้าป่าดงทึบ อกแตกตายที่บริเวณถ้ำกวาง คนโบราณเรียกว่า “พยากงสะเด็น” ซึ่งอาจหมายถึงตัวพระยานรินทร์สงครามผู้ทรงวิทยาคม หรืออาจหมายถึง พญาช้างที่งาหักติดต้นไม้นั้น
บริเวณที่ช้างแทงพระยานรินทร์สงคราม (ทองคำ) เสียชีวิตคือ บริเวณต้นยางใหญ่ตรงทางโค้งก่อนถึงศาลเจ้าจอมปากช่องภูเวียงในปัจจุบันนี้ ซึ่งมีร่องรอยใกล้ ๆ หนองน้ำที่ชาวบ้านเรียกว่า “บุ่งกกแสง”
แม่ทัพไทยได้สั่งให้จัดการศพท่านเหมือนเชลยทั่วไป ภายหลังยังประทับใจในความกล้าหาญของท่าน จึงได้สร้างศาลในบริเวณปากช่องภูเวียง เรียกว่า “ศาลเจ้าจอม” หรือ “ศาลปู่จอม” เพราะเชื่อว่าท่านเป็นผู้ทรงคุณธรรม กล้าหาญสมเป็นเจ้าจอมคนจริง ๆ
ศาลเจ้าจอมแห่งนี้ได้กลายเป็นมงคลสถานอันศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนชาวภูเวียงให้ความเคารพนับถือจนถึงปัจจุบันนี้
คุณธรรมประจำใจควรมีไว้ประจำตน นะครับ
Photo Cr: https://www.facebook.com/photo/?fbid=906040772913155&set=pcb.906041062913126
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น