มินามีเรื่องเล่า เมื่อฌ็อง-ปอล ซารตร์ ปฏิเสธรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม
สวัสดีครับ บางทีความรู้ก็อยู่ที่กองกระดาษนะครับ
วันนี้ผมจัดเรียงกระดาษที่กองกระดาษในบ้าน พบหนังสือพิมพ์ Le
Monde ฉบับวันจันทร์ที่ ๑๗ เมษายน ค.ศ. ๑๙๘๐ หรือ พ.ศ.
๒๕๒๓ จำได้ว่าเป็นหนังสือพิมพ์ที่เพื่อนชาวฝรั่งเศสส่งมาให้เมื่อครั้งที่ ฌ็อง-ปอล
ซารตร์ (Jean-Paul Sartre) เสียชีวิต
และในปีนั้นผมยังเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ ๔
มาถึงวันนี้ เจออดีตวัตถุ
ขออนุญาตนำเรื่องราวที่เขียนไว้ในหนังสือพิมพ์มาเล่าสู่กันฟังนะครับ
วันนี้จะขอพูดถึงการที่ฌ็อง-ปอล ซารตร์ปฏิเสธไม่รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม
ฌ็อง-ปอล ซารตร์เป็นนักปรัชญาและนักเขียนผู้ประกาศเสรีภาพของมนุษย์ในแง่ปัจเจกชน
เมื่อปี ค.ศ. ๑๙๖๔ (พ.ศ. ๒๕๐๗) เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม แต่ไม่ยอมรับรางวัลดังกล่าว
เขามีเหตุผลใด
คอลัมม์ในหนังสือพิมพ์ Le
Monde เล่าให้เราฟังว่า
เมื่อปี ค.ศ. ๑๙๖๔
คณะกรรมการพิจารณารางวัลโนเบลแห่งประเทศสวีเดนได้ประกาศมอบรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมให้นักเขียนฝรั่งเศส
ชื่อ ฌ็อง-ปอล ซารตร์
อันที่จริงซารตร์ได้เขียนจดหมายแจ้งคณะกรรมการฯ
แล้วว่า เขาปฏิเสธที่จะรับรางวัลอันยิ่งใหญ่ของโลกนี้ แต่คณะกรรมการฯ ยืนกรานที่จะมอบให้เขา
ในคืนที่มีพิธีมอบรางวัล ซารตร์ยังกล่าวยืนกรานการปฏิเสธของเขา
ทำไมซารตร์ปฏิเสธรางวัลยิ่งใหญ่นี้
ซารตร์ให้เหตุผลหลักๆ ๒ ประการ คือ เหตุผลส่วนตัวและความเป็นปรนัย
(กลาง) ของเขา
เหตุผลส่วนตัว ซารตร์กล่าวว่า
“การปฏิเสธรางวัลของผมไม่ได้เกิดขึ้นโดยปัจจุบันทันด่วน
ผมปฏิเสธรางวัลต่างๆ ที่มอบให้ผมมาโดยตลอด (...)
เรื่องนี้เกิดจากทัศนคติของผมด้านการทำงานของนักเขียน รางวัลต่างๆ
ที่นักเขียนคนหนึ่งได้รับนั้นจะทำให้บรรดาผู้อ่านมีความกดดัน
ซึ่งผมไม่คิดว่าจะรับมือกับเรื่องนี้ได้”
สำหรับเหตุผลประการที่สองเป็นเรื่องของความเป็นปรนัยหรือความเป็นกลาง ในช่วงเวลานั้นมีสงครามเย็นระหว่างโลกตะวันตกและโลกตะวันออก ซารตร์กล่าวว่า
“เป็นเรื่องของการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขของวัฒนธรรมทั้งสองฝ่าย
คือฝ่ายตะวันออกและฝ่ายตะวันตก การเผชิญหน้ากันของวัฒนธรรมและคนสร้างวัฒนธรรมทั้งสองค่ายควรเกิดขึ้นโดยไม่มีการแทรกแซงจากสถาบันต่างๆ
ข้าพเจ้าทราบดีว่ารางวัลโนเบลไม่ใช่รางวัลด้านวรรณกรรมของแนวร่วมฝ่ายตะวันตกฝ่ายเดียว
แต่เป็นรางวัลที่เราร่วมกันจัดทำขึ้น (...)
ในเวลาปัจจุบัน
รางวัลนี้แสดงความเป็นปรนัยในฐานะเป็นรางวัลเกียรติยศที่สงวนไว้ให้บรรดานักเขียนฝ่ายตะวันตกและบรรดานักเขียนขบถของฝ่ายตะวันออก”
เป็นอย่างไรบ้างครับ บางทีซารตร์ท่านคงรู้จักเรื่องหัวโขนมาแล้ว


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น