มินามีเรื่องเล่า
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์
ผมจำได้ว่า เคยเดินทางมาเที่ยวเมืองลพบุรีเมื่อ ๘ปีแล้ว ได้พาคณะนักศึกษามาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
สมเด็จพระนารายณ์ รู้สึกประทับใจพระราชวังพระนารายณ์ราชนิเวศน์เป็นอย่างมาก ประทับใจในเรื่องราวทางประวัติศาสตร์
รวมทั้งประวัติความเป็นมาของเมืองลพบุรี มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
สมเด็จพระนารายณ์ อีกครั้ง ต้องนำเรื่องมาเล่าสู่กันฟังนะครับ
เมื่อมาเมืองลพบุรี ทุกท่านนึกถึงสิ่งใดก่อนครับ แน่นอน ส่วนมากจะนึกถึงลูกหลานของท่านหนุมาน
ท่านอยู่ที่ใดบ้างครับ โดยหลักๆ พี่ลิงเหล่านี้อยู่ที่ศาลพระกาฬ
อยู่ที่พระปรางค์สามยอด อยู่ที่ตึกแถวบริเวณนั้นๆ พวกเขามีพื้นที่ของตัวเอง
ในการเดินทางไปลพบุรีในวันนั้น
(๒๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๕) พวกเราอยู่บนรถ ขอทักทายพี่ลิงบนรถนะครับ ทั้งนี้เนื่องจากจุดมุ่งหมายสำคัญของพวกเรา
คือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนสรศักดิ์ ตำบลท่าหิน
อำเภอเมืองจังหวัดลพบุรี
เมื่อมาถึงพระนารายณ์ราชนิเวศน์แล้ว พวกเราจะไปที่ไหนกันก่อน
คำตอบง่ายมาก ไปชื้อตั๋วเข้าชมพระราชวังก่อนนะครับ ค่าตั๋วเข้าชม หรือ ภาษาทางการที่ไพเราะเรียกว่า
“ค่าธรรมเนียมเข้าชม” ติดไว้ที่บริเวณอาคารทางขวามือเมื่อเดินเข้าพระราชวังแล้ว
ป้ายประกาศค่าธรรมเนียมเข้าชม เขียนไว้ว่า ชาวไทย คนละ
๓๐บาท ชาวต่างชาติ คนละ ๑๕๐บาท นักบวช ผู้สูงอายุ (๖๐ปี ขึ้นไป)
นักเรียนและนักศึกษาในเครื่องแบบไม่เก็บค่าธรรมเนียมเข้าชม
ในกลุ่มของพวกเรา มี ส.ว. ๕ คน ยังไม่ส.ว. ๕ คน
สงสัยกลุ่มของพวกเราคงเป็นพวกที่อยู่ในโครงการคนละครึ่ง (แบ่งกลุ่มตามอายุ) สรุปคือ
พวกเราจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าชม ๕ คน ไม่ได้รับการเก็บค่าธรรมเนียม ๕ คน พูดง่ายๆ
คือไม่ต้องจ่ายนั่นเอง
สำหรับผมแล้ว ไม่ต้องทายครับว่าอยู่กลุ่มไหน ผมอยู่ในกลุ่มที่
๒ แน่นอน ถ้านับตามอาวุโส น่าจะเป็นอันดับ ๓ ร่วมกับท่านอดีตคณบดีของผม
ต้องขอออกตัวแก้ต่างให้กับกลุ่มที่ ๒ อย่างพวกเรานะครับ
เรายินดีชำระค่าธรรมเนียม แต่เมื่อท่านยกเว้นให้ ก็น้อมรับ แต่ ส.ว. อย่างพวกเราคงไม่รับอะไรฟรีๆ
ขอจ่ายค่าธรรมเนียมเป็นการเขียนเล่าเรื่องพระนารายณ์ราชนิเวศน์ให้สาธารณชนได้รู้จักกันนะครับ
พูดถึงค่าธรรมเนียมเข้าชม ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะพวกฝรั่งจะโมโหโกรธามาก ทำไมต้องมีการแบ่งแยกค่าเข้าชม อาจารย์ฝรั่งที่สอนในประเทศไทยเดือดดาลตลอดเวลา ส่วนฝรั่งที่เป็นนักท่องเที่ยวก็บ่นแหลกลาญ พูดถึงความไม่เป็นธรรม ผมพยายามพูดให้ฟังครับว่า ท่านทั้งหลายมีเงิน และเงินใหญ่มาหาเงินน้อย สาระสำคัญในสถานที่ที่จะเข้าชมมีคุณค่าและราคาสูงกว่าบัตรเข้าชมมากนัก เวลาที่พวกผมจะเข้าชมพิพิธภัณฑ์ในประเทศของท่านอาจจะคิดราคาเข้าชมเท่ากัน ไม่ได้แบ่งแยก แต่ค่าเข้าชมของท่านล้นคอหอยของพวกเรา ฝรั่งท่านก็รับฟัง แต่ยังบ่นเหมือนเดิม
เมื่อท่านเข้ามาในเขตพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ทางขวามือเป็นสถานที่จำหน่ายบัตรเข้าชม ทางซ้ายมือก็สำคัญ เป็นร้านกาแฟครับ เล็งๆ กันไว้ตอนออกมาจากการเข้าชมนะครับ
เล่าเรื่องพระราชวังกันนะครับ ในสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้าง พระราชวัง ณ เมืองลพบุรีเมื่อปี พ.ศ. ๒๒๐๙ พระองค์ทรงใช้พระราชวังแห่งนี้เป็นที่ประทับ ออกว่าราชการ และต้อนรับแขกเมือง สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเสด็จมาประทับ ณ พระราชวังเมืองลพบุรีปีละ ๘-๙ เดือน ทำให้เมืองลพบุรีมีความสำคัญเหมือนเป็นราชธานีแห่งที่ ๒ รองจากกรุงศรีอยุธยา
สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเสด็จสวรรคตเมื่อปี
พ.ศ. ๒๒๓๑ พระนารายณ์ราชนิเวศน์จึงถูกทิ้งร้าง ต่อมา เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๙๙ ในราชการพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงโปรดฯ ให้บูรณะพระราชวัง และสร้างหมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฎ หมู่ตึกพระประเทียบ
และทิมดาบขึ้นใหม่ (ทิมดาบ คือที่พักของทหารรักษาการพระราชวัง) พร้อมทั้งพระราชทานนามว่า
“พระนารายณ์ราชนิเวศน์”
เอกสารของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
สมเด็จพระนารายณ์ (แน่นอน แจกฟรีครับ) อธิบายภาพของพระราชวังนารายณ์ราชนิเวศน์
ไว้ดังนี้ครับ
“พระนารายณ์ราชนิเวศน์เป็นพระราชวังโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยาที่ยังคงสภาพสมบูรณ์มากที่สุด
มีความสำคัญและทรงคุณค่าทั้งด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดี และสถาปัตยกรรม แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของลพบุรี
พระราชวังมีผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า พื้นที่ประมาณ ๔๑ ไร่ ด้านหน้าหันเข้าตัวเมือง
ด้านหลังติดแม่น้ำลพบุรี กำแพงก่ออิฐถือปูน มีใบเสมาล้อมรอบ มีป้อมปืน ๗ ป้อม ประตูขนาดใหญ่ทรงโค้งแหลม
๑๑ ประตู ผนังกำแพงและประตูเจาะช่องโค้งแหลม สำหรับวางตะเกียงเพื่อให้ความสว่างแก่พระราชวังในยามค่ำคืน
อันเป็นรูปแบบศิลปะที่พบได้ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช”
ทีนี้เรามาดูพื้นที่ภายในพระราชวังกันนะครับ
พระนารายณ์ราชนิเวศน์แบ่งพื้นที่ออกเป็น
๓ เขตพระราชฐาน ได้แก่ เขตพระราชฐานชั้นนอก เขตพระราชฐานชั้นกลาง
และเขตพระราชทานชั้นใน
พระที่นั่งและสิ่งก่อสร้างสำคัญในเขตพระราชฐานชั้นนอก
ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำหรือถังเก็บน้ำประปา เป็นที่เก็บกับน้ำสำหรับใช้ภายในพระราชวัง
มีสิบสองท้องพระคลัง คือสถานที่เก็บสินค้าหรือสิ่งของเพื่อใช้ในราชการ มีโรงช้างหลวงมีทั้งหมด
๑๐ โรง เป็นที่อยู่ของช้างพระที่นั่งและช้างหลวงสำหรับใช้ในราชการเสด็จประพาสป่าและล่าสัตว์
มีตึกเลี้ยงรับรองแขกเมือง คือ สถานที่เลี้ยงต้อนรับคณะราชทูตชาวต่างประเทศ
มีตึกพระเจ้าเหา เป็นหอพระประจำพระราชวัง
เขตพระราชฐานชั้นกลางและเขตพระราชฐานชั้นใน
จะขอเล่าในวันต่อไปนะครับ โปรดติดตามนะครับ


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น