มินามีเรื่องเล่า เราเป็นญาติกันที่พัทลุง ตอนพระยาพัทลุง
(ทองขาว)
เมื่อพระศรีไกรลาศ
เจ้าเมืองพัทลุง ได้รับพระราชอาชญาและถูกถอดถอนจากตำแหน่งเจ้าเมืองพัทลุง เพราะไม่คิดต่อสู้กับพวกแขกเซียะ
พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์
ฉบับที่ ๑-๔ แต่งโดยเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ขำ บุญนาค) บันทึกไว้ว่า
“พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
แต่งตั้งหลวงศักดิ์นายเวรมหาดเล็ก ซึ่งเป็นบุตรพระยาพัทลุง (ขุน หรือขุนคางเหล็ก) ให้ลงไปดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองพัทลุงแทนพระศรีไกรลาศ”
หลวงศักดิ์นายเวรมหาดเล็ก
คือท่านทองขาว ซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของพระยาพัทลุง (ขุนคางเหล็ก) กับท่านแป้น
พระยาวิชิตเสนามหาพิชัย
อภัยพิริยศรีสงคราม หรือพระยาพัทลุง (ทองขาว)
เป็นบุตรของพระยาพัทลุง (ขุน หรือขุนคางเหล็ก) กับท่านแป้น
พระยาพัทลุง (ขุน หรือขุนคางเหล็ก) สมรสกับท่านแป้น ธิดาของขุนนางรามัญที่อยู่แถบคลองมอญ
ซึ่งขุนนางรามัญนี้ได้สืบสายสกุลรามัญ (มอญ)
จากพระยาเกียรติและพระยารามในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทั้งสองท่านมีบุตรธิดา รวม ๑๑ คน บุตรชายคนโต ชื่อทองขาว
ได้เป็นพระยาพัทลุง (ทองขาว) บุตรคนที่ ๓ ชื่อท่านกลิ่น
ต่อมาได้เป็นเจ้าจอมมารดากลิ่น ในรัชกาลที่ ๑
พระยาพัทลุง (ทองขาว) มีน้องสาวคือ เจ้าจอมมารดากลิ่น
ในรัชกาลที่ ๑
พระยาพัทลุง (ทองขาว) ได้สมรสกับท่านปล้อง บุตรีของพระยาราชวังสัน
(หวัง)
พระยาราชวังสัน
(หวัง) มีบุตรี ๓ คน คือท่านเพ็ง ท่านปล้องและท่านรอด
พระยาพัทลุง
(ทองขาว) และท่านปล้องมีบุตรธิดารวม ๙ คน ได้แก่
๑.
ท่านผ่อง (ญ) สมรสกับพระอักษรสมบัติ (หม่อมทับ)
๒.
หลวงสัจจาภักดี (นก) (ช) เจ้ากรมเกณฑ์บุญบ้านสนามควาย สมรสกับท่านเอม
บุตรของท่านนาง ผู้เป็นภรรยาของนายนุ่น หลานชายเจ้าพระยานครศรีธรรมราช (พัฒน์)
๓.
ท้าวสมศักดิ์ (พึ่ง) ได้ถวายตัวเป็นเจ้าจอมในสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นท้าวสมศักดิ์ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
๔.
ท่านน้อย ได้ถวายตัวเป็นเจ้าจอมในสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
ได้เป็นหม่อมพนักงานในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
๕.
พระยาพัทลุง (ทับ หรือทัพ)
๖.
ท่านฟัก (ญ) ภรรยาพระพลสงคราม (บัว) บุตรพระยาพัทลุง (เผือก)
๗.
ท่านหงส์ (ช)
๘.
หมื่นสนิทภิรมย์ (นิ่ม) (ช) เป็นปลัดในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นไกรสรวิชิต
(พระองค์เจ้าชายสุทัศน์) พระโอรสของเจ้าจอมมารดากลิ่นกับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
๙.
พระทิพกำแหงสงครามปลัด (สุก) (ช) ได้เป็นหลวงรองราชมนตรี
แล้วเป็นพระทิพกำแหงสงครามปลัด ตำแหน่งปลัดเมืองพัทลุง
ท่านผ่อง
เป็นธิดาคนโตของพระยาพัทลุง (ทองขาว) กับท่านปล้อง ท่านผ่องได้สมรสกับพระอักษรสมบัติ
(ทับ หรือหม่อมทับ หรือหม่อมราชวงศ์ทับ) มีบุตรธิดารวม ๖ คน ได้แก่
๑.
ท่านป้อม (ญ) เป็นผู้คอยอภิบาลสมเด็จเจ้าฟ้าจาตุรนตรัศมี กรมพระจักรพรรดิพงศ์
พระราชอนุชาของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
๒.
ท่านฉิม (ภายหลังเปลี่ยนเป็นชื่อรอด) ภรรยาของพระเทพเพชรรัตน์ (นาค)
และเป็นย่าของพระนมปริก พระนมเอกในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
๓.
เจ้าจอมมารดาทรัพย์ ในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ๔. ท่านน้อย (ญ)
ภรรยาพระเทพอรชุน (แสง) เป็นสายสกุลศิริสัมพันธ์
๕.
ท่านแขก (ช)
และ
๖. ท่านฝรั่ง (ช)
ธิดาคนที่
๓ ของท่านผ่องและพระอักษรสมบัติ (ทับ) ชื่อท่านทรัพย์ ได้เป็นเจ้าจอมมารดาทรัพย์
พระสนมเอก ในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
เจ้าจอมมารดาทรัพย์และพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
มีพระราชโอรสธิดา ๒ พระองค์ คือ สมเด็จพระมาตมหัยยิกาเธอ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ (พระเจ้าลูกยาเธอ
พระองค์เจ้าศิริวงศ์) ต้นราชสกุล ศิริวงศ์ ณ อยุธยา และพระเจ้าบรมมหัยยิกาเธอ
กรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูร (พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าหญิงลม่อม)
ดังนั้นพระยาวิชิตเสนามหาพิชัย
อภัยพิริยศรีสงคราม หรือพระยาพัทลุง
(ทองขาว) จึงเป็นคุณตาของเจ้าจอมมารดาทรัพย์ พระสนมเอกในรัชกาลที่
๓ และเป็นทวดของ สมเด็จพระมาตมหัยยิกาเธอ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ (พระเจ้าลูกยาเธอ
พระองค์เจ้าศิริวงศ์)
สมเด็จพระมาตมหัยยิกาเธอ
กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ (พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าศิริวงศ์) ทรงเป็นพระบิดาของหม่อมเจ้าหญิงรำเพย
ซึ่งต่อมาได้เป็นสมเด็จพระเทพศิรินทรา บรมราชินี ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
และเป็นพระบรมราชชนนีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
สมเด็จพระมาตมหัยยิกาเธอ
กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ (พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าศิริวงศ์) จึงเป็นพระอัยกา (ตา)
ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ย้อนมากล่าวถึงประวัติการรับราชการของพระยาวิชิตเสนามหาพิชัย
อภัยพิริยศรีสงคราม หรือพระยาพัทลุง (ทองขาว)
ในสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ท่านทองขาว หรือศักดิ์ (ทองขาว) ได้รับการโปรดเกล้า
ฯ ให้เป็นเจ้าเมืองพัทลุงในปี พ.ศ. ๒๓๓๔
พระยาพัทลุง
(ทองขาว) เป็นผู้กล้าหาญเหมือนพระยาพัทลุง (ขุน หรือขุนคางเหล็ก) ผู้เป็นบิดาของท่าน
ครั้งหนี่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ทรงยกทัพไปตีเมืองทวาย
ตะนาวศรีและมะริดของพม่า ในครั้งนี้พระยาพัทลุง (ทองขาว)
ได้เกณฑ์กองทัพโดยสมเด็จพระบวรราชเจ้าฯ เสด็จไปด้วย
นอกจากนี้ท่านได้ร่วมต้านทัพของพม่าที่ท่าเสม็ด
จนชนะและไปตีเมืองปัตตานีจนได้รับชัยชนะเป็นครั้งที่
๒
ในปี พ.ศ. ๒๓๕๒
พม่ายกทัพเข้ามาตีเมืองถลาง (ภูเก็ต) พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกได้โปรดเกล้าฯ
ให้พระยาพัทลุง (ทองขาว) ยกทัพไปร่วมกับทัพหลวงที่เมืองตรัง ท่านสามารถยกทัพไปตีเมืองถลางคืนจากพม่าได้สำเร็จ
พระยาพัทลุง
(ทองขาว) มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนามาก ท่านได้สร้างวัดวัง เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๕๙ ที่บ้านลำปำ
จังหวัดพัทลุง
พระยาพัทลุง
(ทองขาว) ได้ปกครองเมืองพัทลุง ระหว่างปี พ.ศ. ๒๓๓๔-๒๓๖๐ รวม
๒๖ ปี ท่านถึงแก่อนิจกรรมในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
น่าสนใจนะครับ ทวนอีกครั้งนะครับว่า พระยาพัทลุง (ทองขาว) เป็นบุตรของพระยาพัทลุง (ขุน หรือขุนคางเหล็ก) กับท่านแป้น นะครับ
พระยาพัทลุง (ขุน หรือขุนคางเหล็ก)