หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง จังหวัดหนองคาย
มินามีเรื่องเล่า หลวงพ่อพระใส
วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง จังหวัดหนองคาย ตอนที่ ๒
สวัสดีครับ วันนี้เรามาติดตามเรื่องราวของหลวงพ่อพระใสจากการสนทนาของพระครูธรรมาภิสมัยและพระมหาจงยุทธ ในรายการไอดินกลิ่นธรรมกันต่อนะครับ
ตอนนี้กำลังถึงตอนที่กำลังจะนิมนต์พระใสขึ้นเกวียนกันนะครับ
***********************
พระมหาจงยุทธ: และหลังจากขึ้นเกวียนเสร็จแล้วก็
พระครูธรรมาภิสมัย:
ขึ้นเกวียนด้วยกันหรือคนละคัน
พระมหาจงยุทธ: ขึ้นคนละคันครับ
พระครูธรรมาภิสมัย:
สองคัน
พระมหาจงยุทธ: ขึ้นก่อนที่เคลื่อนมานี้
ได้เคลื่อนหลวงพ่อสององค์นี้มาอยู่ที่วัดโพธิ์ชัยก่อนแล้ว
ซึ่งตรงนี้ตรงหน้าพระเจดีย์นี้ แต่เดิมตรงนี้เป็นที่ถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา
พระครูธรรมาภิสมัย:
อ๋อ
พระมหาจงยุทธ: ครับ
เป็นที่ถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา ตรงพระเจดีย์องค์ปัจจุบันที่อยู่ด้านหน้าพระอุโบสถนี้
พระครูธรรมาภิสมัย:
ที่ด้านหน้าขาวๆ นี้นะ
พระมหาจงยุทธ: ครับ
มีมาอยู่ก่อนหลวงพ่อแล้วครับ
พระครูธรรมาภิสมัย:
อ๋อ
พระมหาจงยุทธ: ครับ
ในสมัยล้านช้าง ที่นี้หลังจากที่อัญเชิญหลวงพ่อสององค์ขึ้นเกวียนคนละลำใช่ไหมครับ
พระครูธรรมาภิสมัย:
ครับ
พระมหาจงยุทธ: หลวงพ่อพระเสริมนี่ก็เคลื่อนไปได้เป็นปกติธรรมดา
แต่ว่าเกวียนที่บรรทุกหลวงพ่อพระใสนั้นเคลื่อนไม่ได้ครับ
พระครูธรรมาภิสมัย:
เคลื่อนไม่ได้เลย
พระมหาจงยุทธ: ครับ
แม้ว่าจะพยายามแล้วพยายามเล่า พยายามจนเกวียนหักนี่เลย
พระครูธรรมาภิสมัย:
ได้ยินข่าวว่า
ผมเคยมาดูการแสดงแสงสีเสียง แล้วก็นักเรียนมาแสดง เห็นเกวียนหัก เรียก หลวงพ่อเกวียนหัก
ใช่ไหมครับผม
พระมหาจงยุทธ: กระผมเรียก
เกวียนหักรอบแรกก็ไม่เท่าไร ก็เอามาเปลี่ยนลำที่สอง
พระครูธรรมาภิสมัย:
มีหลายรอบหรือครับ
พระมหาจงยุทธ: ก็ลำที่สอง
ลำที่สาม ทั้งหมดเจ็ดคันครับผม
พระครูธรรมาภิสมัย:
มิใช่ธรรมดานะครับ
พระมหาจงยุทธ: ถึงเจ็ดคัน
ก็เลยได้อธิสมมุติปวารนาม ก็คือนามที่เกิดขึ้นในปัจจุบันว่า หลวงพ่อเกวียนหัก
ครับผม
พระครูธรรมาภิสมัย:
นี่เห็นไหม
ผมว่าท่านคงอยากจะอยู่ที่นี่นะครับ
พระมหาจงยุทธ: ครับ ก็เป็นนัยว่า
คนโบราณก็เลยสันนิษฐานว่า นี่เป็นประสงค์ของเทวดา เป็นประสงค์ของหลวงพ่อ หลวงพ่อมีความประสงค์จะอยู่คู่กับคนหนองคาย
ก็เลยอัญเชิญหลวงพ่อประดิษฐานอยู่ในที่นี้ตั้งแต่บัดนั้น แล้วก็ในสมัยนั้นเป็นอุโบสถขนาดเล็ก
พระครูธรรมาภิสมัย:
ยังไม่ใหญ่ขนาดนี้นะ
พระมหาจงยุทธ: ครับผม
พระครูธรรมาภิสมัย:
ก็ถือว่าเป็นบุญของชาวจังหวัดหนองคาย ในภาคอีสานของเรานะ
พระมหาจงยุทธ: เป็นบุญของคนทั่วโลกที่ได้มากราบไหว้หลวงพ่อพระใสนะครับ
พระครูธรรมาภิสมัย:
ท่านอาจารย์ครับ
ผมมากราบหลวงพ่อพระใสนี้ ผมไม่ได้นับจำนวนนะ แต่ผมว่าเกินเก้าครั้งแล้วนะครับ
พระมหาจงยุทธ: ครับ
พระครูธรรมาภิสมัย:
เพราะว่าผมมาเยี่ยมหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัด
มากราบท่าน ผมยังขึ้นมาแทบทุกครั้ง
พระมหาจงยุทธ: ครับผม
ถ้าใครมากราบหลวงพ่อแล้ว ก็จะมีครั้งที่สอง ครั้งที่สามต่อไปมาเรื่อยครับ เพราะว่าถ้าใครมีบุญหรือว่ามีจิตที่เนื่องต่อหลวงพ่อ
หรือว่าเป็นลูกเป็นหลานหลวงพ่อ ก็จะได้มาอยู่เรื่อยๆ อย่างนี้ล่ะครับ
พระครูธรรมาภิสมัย:
อ๋อครับ นี่คือ
นับว่าเป็นบุญอย่างมหาศาลที่เราชาวไทยหรือว่าคนทั้งโลกได้มีโอกาสมากราบหลวงพ่อพระใส
ซึ่งประวัติการสร้าง ประวัติความเป็นมา ประวัติการประดิษฐานอยู่ที่นี่
ผมว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดานะครับ
พระมหาจงยุทธ: ครับ
พระครูธรรมาภิสมัย:
คือต้องบอกว่าหลวงพ่ออยากอยู่ที่นี่
บารมีท่านอยู่ที่นี่ และอีกอย่างหนึ่งก็คือ
เป็นพระที่ทุกคนได้ทราบประวัติว่าเป็นพระที่เทวดาสร้าง
พระมหาจงยุทธ: ครับ
พระครูธรรมาภิสมัย:
คนธรรมดานี่ พระเณรนี่ ไม่สามารถที่จะหล่อหลอมทองได้เจ็ดวันเจ็ดคืนแล้ว
ญาติโยมไม่มีใครทำได้ จนมีเทวดามาช่วยหลอมทอง
พระมหาจงยุทธ: ครับ
เทวนะพิมพังอมะละกะตัง
พระครูธรรมาภิสมัย:
ซึ่งแปลว่าอะไรครับ
พระมหาจงยุทธ: เทวดาสร้างครับ
พระครูธรรมาภิสมัย:
เทวดาสร้าง
พระมหาจงยุทธ: ครับ
พระครูธรรมาภิสมัย:
มีคำถามจากผู้ที่ติดตามการถ่ายทอดสด ที่อยากจะถามเกี่ยวกับเรื่องวัดโพธิ์ชัย
หลวงพ่อพระใส จังหวัดหนองคาย พระสุก พระเสริมนี่ วันนี้ กระผมหรืออาตมาภาพ
ได้มานั่งอยู่กับท่านผู้ช่วยเจ้าอาวาสท่านจงยุทธ เปรียญธรรมเก้าประโยค ท่านศึกษาประวัติมาอย่างดียิ่งนะครับ
ซึ่งผมก็เพิ่งรู้บางอย่างในวันนี้ จริงๆ
แล้วก็มากราบหลายครั้งก็รู้พอผิวเผินนะท่านอาจารย์
พระมหาจงยุทธ: ครับ
พระครูธรรมาภิสมัย:
ท่านถามว่า ตำนานพระสุก พระเสริม พระใส
เกี่ยวข้องกันอย่างไรครับ ถือว่าเป็นพระพี่น้องกันหรือไม่ครับ
พระมหาจงยุทธ: ครับ
ถูกต้องครับ เป็นพระพี่น้องกันเพราะว่า พี่น้องพระราชธิดาสุก
พระราชธิดาเสริมและพระราชธิดาใสทรงมีความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา
ประสงค์ที่จะสร้างถาวรวัตถุในพุทธศาสนา ก็คือสร้างพระพุทธรูปให้อยู่คู่กาล คู่เวลา
คู่พระพุทธศาสนานี้ไป แม้ว่าพระองค์จะสิ้นชีวิตไป แต่ว่าพระองค์ได้ฝากชื่อ
ฝากฝีไม้ลายมือเป็นพระพุทธปฏิมาที่มีค่าให้คนทั้งหลายได้กราบ
พระพุทธรูปทั้งสามองค์นี้เป็นพี่น้องกันเจริญพร
พระครูธรรมาภิสมัย:
นี่คือคำตอบที่ชัดเจนครับ
ท่านอาจารย์ครับในเมื่อญาติโยมมีความศรัทธา ศรัทธาต่อหลวงพ่อพระใส
ศรัทธาต่อพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ ที่มีครูบาอาจารย์ได้มาปลุกเสกบ้าง
ได้มานั่งสวดมนต์บ้าง มาอธิษฐานจิตบ้าง อยากจะให้อาจารย์พูดสักนิดหนึ่ง
เหตุการณ์อัศจรรย์เกี่ยวกับหลวงพ่อพระใส เหรียญต่างๆ
ที่มีญาติโยมมีศรัทธามาสร้างหรือว่ามีผู้ที่มีศรัทธามาสร้างไว้ มี เป็นที่เป็นที่ญาติโยมได้รู้จักกันบ้างครับ
เกี่ยวกับเรื่องพุทธคุณของหลวงพ่อครับผม
พระมหาจงยุทธ: ครับ
พูดในเรื่องของพุทธคุณนี้เยอะพอสมควร
ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแต่ละคนว่าจะประสบในลักษณะอย่างไร
แต่ที่ลงหนังสือพิมพ์ก็มีรุ่นฟ้าผ่าที่มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ อยู่ใกล้ๆ นี้ครับ อยู่ที่ตำบลหนองกอมเกาะนี่เอง
ฟ้าผ่าลงมา แต่ว่านางได้คล้องหลวงพ่อพระใส ก็เลยไม่เสียชีวิต แล้วก็เพียงแต่มีรอยไหม้อยู่ตรงลำคอนิดหนึ่งครับผม
พระครูธรรมาภิสมัย:
อ๋อ
พระมหาจงยุทธ: ก็เลยด้วยความเชื่อ
ด้วยความศรัทธา ก็เลยน้อมระลึกถึงหลวงพ่อพระใส นี่ก็คงจะเป็นฤทธิหรืออิทธิปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อที่สามารถปกป้องคุ้มครองไม่ให้ถึงแก่ภยันตราย
พระครูธรรมาภิสมัย:
ผมว่าสิ่งหนึ่งที่เรา ผมก็มี
ผมมากราบหลวงพ่อเมื่อไร หลวงพ่อพระราชรัตนาลงกรณ์ เจ้าคณะจังหวัดหนองคาย
ผมมากราบท่านทีไร ท่านมักจะให้กำลังใจ หนึ่งให้ธรรมะผม สองให้หลวงพ่อพระใส
ซึ่งเป็นเหรียญ ซึ่งท่านบอกว่า นี่เรานึกถึงพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ
นึกถึงอยู่ในใจ ให้มีกำลังใจ ให้มีสติ อย่างประมาท
พระมหาจงยุทธ: ครับ
พระครูธรรมาภิสมัย:
ท่านจะสอนอย่างนี้ตลอดเลย เพราะฉะนั้น
นี่คือสิ่งที่ญาติโยมทั้งหลายที่ได้เหรียญหลวงพ่อไป คือถ้ามีหลวงพ่ออยู่ในคอ
อยู่ในมือ อยู่ในกระเป๋านะ ให้มีสติใช่ไหมครับท่านอาจารย์ ตรงนี้ถูกต้องไหมครับ
พระมหาจงยุทธ: ครับ
ให้มีสติ ในบรรดาอนุสติสิบประการนี้นะครับ ข้อหนึ่งก็คือ พุทธานุสติ
ก็คือระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งที่ระลึกถึงตลอดกาล ตลอดเวลาเรียกว่าตลอดชีวิตนะครับ
พระครูธรรมาภิสมัย:
ครับผม
พระมหาจงยุทธ: แม้แต่คนในจังหวัดหนองคายที่เกิดขึ้นมานี้
คลอดบุตร ยังไม่ทันได้เอาเข้าบ้านนะครับ ก็อุ้มมาถวาย ประเคนเป็นลูกของหลวงพ่อก่อน
พระครูธรรมาภิสมัย:
นี่คือกุศโลบายของพ่อของแม่
เมื่อเข้ามาวัดแล้ว เมื่อลูกเข้ามาวัดแล้ว มอบให้เป็นลูกพระ
พระมหาจงยุทธ: ครับ
ถวายเป็นลูกของหลวงพ่อพระใส แล้วค่อยเอากลับบ้าน
พระครูธรรมาภิสมัย:
ครับ เอากลับบ้าน เพื่อให้เป็นกำลังใจ
เป็นลูกเป็นคนบอกง่าย เชื่อง่ายเป็นคนไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ
พระมหาจงยุทธ: ครับ
พระครูธรรมาภิสมัย:
สังเกตดูเด็กๆ บ้านเราซึ่งพ่อแม่เคยพูดให้ฟังว่า
“ไผป่วยเป็นโรคนั้นโรคนี้ เป็นโรคหลายๆ เอาไปให้หลวงพ่อผูกแขนให้”
พระมหาจงยุทธ: ครับ
พระครูธรรมาภิสมัย:
ให้หลวงพ่อสวดมนต์ให้ หาย
นี่คือสิ่งที่อัศจรรย์นะ ท่านอาจารย์ครับ ไม่ใช่ธรรมดา
พระมหาจงยุทธ: เป็นที่น่าอัศจรรย์
เด็กบางคนร้องไห้ในเวลากลางคืน อาจจะด้วยเหตุผลกลใดก็ไม่ทราบได้
แต่ว่าพอเอามาถวายเป็นลูกหลวงพ่อ กลับไปก็ว่านอนสอนง่าย ก็ไม่ร้องไห้อีก ดังนี้ก็ถ้าเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อ
ความเลื่อมใสศรัทธา แต่ละคนจะประสบไม่ค่อยที่จะเหมือนกันหรอกครับ แต่คล้ายๆ กัน
ด้วยว่าหลวงพ่อเป็นพระพุทธรูปที่สำคัญแล้วก็ศักดิ์สิทธิ์
เป็นที่พึ่งทางใจของชาวพุทธทั้งในประเทศและนอกประเทศ พอทุกๆ ปี ก็จะ บางท่านก็จะมาเขียนบนไว้
จะมีบัญชีบนนะครับ
พระครูธรรมาภิสมัย:
อืม มีบัญชีด้วยไหมครับ
พระมหาจงยุทธ: มีการลงบัญชีไว้ครับ
มีลงบัญชีไว้ว่าในปีนี้ข้าพเจ้าชื่อนี้ นามสกุลนี้ มาบนเรื่องอะไร
พระครูธรรมาภิสมัย:
อ๋อ
พระมหาจงยุทธ: ปีต่อมาก็จะมาแก้เรื่องนั้น
หรือว่าอาจจะไม่ถึงปีละครับถ้าประสบผลสำเร็จในเวลาไหน
ในเวลาใดก็มาแก้บนดังที่ตนได้ให้คำมั่นสัญญาไว้
พระครูธรรมาภิสมัย:
ท่านอาจารย์ครับ
ผมขอกราบเรียนถามนิดหนึ่งว่า ส่วนใหญ่คนมาบนเรื่องอะไรบ้างครับผม
หรือแทบทุกเรื่องครับ
พระมหาจงยุทธ: แทบจะทุกเรื่องก็ว่าได้ครับ
ที่เยอะที่สุดก็คือเรื่องเจ็บเรื่องป่วย เรื่องการสอบไล่ สอบเลื่อนขั้น
พระครูธรรมาภิสมัย:
ครับ ตอนนี้ใกล้จะสอบครูแล้ว
สามารถที่จะมากราบหลวงพ่อ ขอพรหลวงพ่อ
พระมหาจงยุทธ: ได้ครับผม
พระครูธรรมาภิสมัย:
สิ่งที่
สิ่งสำคัญคือขอพรแล้วต้องไปอ่านหนังสือด้วย
พระมหาจงยุทธ: ก็อันนี้เป็นกำลังใจครับ
เป็นกำลังใจให้มุ่งมั่นครับ เป็นส่วนที่เสริม เรียกว่าเป็นบุญ มาทำบุญให้หนุนดวง
พระครูธรรมาภิสมัย:
อ๋อ ทำบุญให้หนุนดวง
พระมหาจงยุทธ: ครับ
ที่ป่วย
พระครูธรรมาภิสมัย:
ก็หาย
พระมหาจงยุทธ: ที่ป่วยก็หาย
ที่หน่ายก็รัก ถ้ามีบุญมาหนุนนะครับ ถ้าถึงกาลถึงเวลาก็ อะไรก็ห้ามไม่อยู่
พระครูธรรมาภิสมัย:
ครับ
วันนี้ญาติโยมทุกท่านที่ได้ชมการไลฟ์สดที่ อันนี้เรียกว่าวิหารหรือโบสถ์ครับอาจารย์ครับ
พระมหาจงยุทธ: อันนี้เรียกว่าโรงพระอุโบสถที่เห็นอยู่นี้นะครับ
พระครูธรรมาภิสมัย:
โรงพระอุโบสถครับ
มีหลวงพ่อพระใสเป็นพระประธานที่อยู่ในโรงพระอุโบสถแห่งนี้
ซึ่งต้องบอกว่าเป็นเมตตาของหลวงพ่อ พระราชรัตนาลงกรณ์ และท่านเจ้าคณะอำเภอ
ผู้ช่วยเจ้าอาวาส รวมถึงท่านอาจารย์จงยุทธ กิตฺติวุตฺโต เปรียญธรรม ๙
ประโยคที่ท่านได้เมตตา ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องประวัติของวัด
ประวัติของหลวงพ่อพระใสให้ฟัง ซึ่งทีมงานได้มีความภูมิใจและได้มีโอกาสมาตรงนี้
จริงๆ แล้ว
ถ้าไม่ได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อคงไม่มีโอกาสมาพูดถึงประวัติหลวงพ่ออยูข้างบนนี้
พระมหาจงยุทธ: ครับ
พระครูธรรมาภิสมัย:
คือท่านเมตตามากเลยวันนี้
พระมหาจงยุทธ: หลวงพ่อพระใสไปอยู่ที่ไหน
ตรงนั้นเรียกว่า มีแต่ความผุดผ่องใส ไปเพิ่ม ไปเสริม ไปเติม ไปแต่ง
ให้ที่นั้นสุข สงบ ร่มเย็น ครับผม
พระครูธรรมาภิสมัย:
ถือว่าเป็นโอกาสดีที่บรรดาคณะญาติโยมทุกท่านได้ติดตามชมรายการ
นี่คือประวัติวัดโพธิ์ชัยกับหลวงพ่อพระใส
อาจารย์ครับ อยากจะให้อาจารย์ให้ข้อคิด ให้สติในการดำรงชีวิตสำหรับญาติโยมทุกท่านครับ
พระมหาจงยุทธ: ในวาระโอกาสปีใหม่
๒๕๖๔ อาตมาภาพในนามของคณะสงฆ์จังหวัดหนองคาย ในนามของคณะสงฆ์วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง
อันมีพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระราชรัตนาลงกรณ์ เจ้าคณะจังหวัดหนองคาย ผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย
พระอารามหลวง ไสยพุทธานุภาเวนะ ด้วยอำนาจแห่งหลวงพ่อพระใสผู้ทรงฤทธี สวัสดีมงคล
โปรดอารักขาท่านสาธุชน ขอให้ทุกๆ คนได้รับผลพรชัย จงสุขๆ สม สร่างตรมสิ้นโศก ห่างไกลไร้โรค
วิโยคภัยพาล เกษมเปรมปรี ชีวีชื่นบาน โชติช่วงดวงมาลย์ พบพานแต่โชคดี จงสุขสดใส กายใจ
ทุกข์ภัยอย่าต้อง เรืองรอง จงรักษาตนให้พ้นโรคี ด้วยสัจจะวาจานี้ ด้วยการประสิทธิ์ประสาทพรนี้
ขอให้ท่านทั้งหลายมีความสุข มีความสุข ตลอดปีและก็ตลอดไปด้วยกันทุกท่านทุกคนเทอญ ขอเจริญพร
พระครูธรรมาภิสมัย:
ครับ ขอบคุณท่านอาจารย์จงยุทธ กิตติวุตโต เปรียญธรรม ๙ ประโยค เป็นอย่างยิ่ง ที่ได้สละเวลาอันมีค่ามาร่วมกับรายการ
สำหรับอาตมาวันนี้จะฝากข้อคิดกับญาติโยมสัก ๑ นาทีสั้นๆ ว่า วันไม่ใช่เพื่อน เดือนไม่ใช่พี่
ปีไม่ใช่น้อง ที่จะประคับประคองเราไป วันก็มีแต่จะเขยื้อน เดือนก็มีแต่จะขยี้ ปีก็มีแต่จะขย้ำ
เพราะฉะนั้นเราต้องรีบทำความดี ช้างตายยังเหลืองา สกุณาตายยังเหลือขน เต่าตายยังเหลือกระดอง
ถ้าพี่น้องตาย ก็มีแต่คุณงามความดีเท่านั้นที่ปรากฏให้กับบุตรหลานได้เห็นได้สัมผัส
เหมือนกับธรรมะที่ท่านอาจารย์ได้ฝากไว้ ให้มีสติอย่าประมาท รักษาตนเอง รักษาคนอื่น
รักษาสังคม รักษาประเทศชาติ ด้วยความที่มีธรรมะเพราะฉะนั้นบทกลอนที่อาตมาได้ฝากไว้ในเบื้องต้นที่บอกว่า
พระพุทธองค์ตรัสว่า อย่าประมาท ชีวิตใช่จะวาดตามปรารถนา ประพฤติตนตามหลักธรรมพระสัมมา
ชีวิตจะมีค่าตลอดไป สุดท้ายนี้ก็ขอให้ผู้ติดตามรับชมรายการ Live
สดทุกคนทุกท่านได้เข้าถึงธรรม ได้มีปัญญา
รักษากายรักษาใจให้ถึงพ้อง และเป็นผู้ที่มีสุขภาพกายสุขภาพใจแข็งแรง ให้ทุกท่านมีอายุ
วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณธนสารสมบัติ จงทุกท่านทุกประการด้วยเถิด กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ด้วย
พระมหาจงยุทธ: ครับ
ขอเจริญพร
**********************************************
เป็นอย่างไรบ้างครับ
เราได้ทราบประวัติของหลวงพ่อพระใสจากการสนทนาธรรมของพระครูธรรมาภิสมัยและพระมหาจงยุทธกันแล้วนะครับ
ท่านมาเยือนเมืองหนองคายเมื่อใด ขอเชิญมานมัสการบูชาหลวงพ่อพระใส
พระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดหนองคายนี้นะครับ