มินามีเรื่องเล่า เราเป็นญาติกัน ตอนตำนานท่านฟารีซี
เจ้าเมืองท่านแรกของเขาเมืองชัยบุรี
สวัสดีครับ
มินามีเรื่องเล่าวันนี้จะขอเล่าเรื่องของท่านฟารีซี เจ้าเมืองพัทลุงที่เขาเมืองชัยบุรีต่อนะครับ
แต่เป็นตำนานพื้นบ้าน
ท่านฟารีซี เป็นที่รู้จักกันในนามท่านมะระโหม หรือท่านทวดโหม หรือท่านตาเพชร หรือพ่อขุนตาเพชร นะครับ
คำว่า มะระโหม หรือคำย่อว่า โหม แปลว่า ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วนะครับ
ตำนานพื้นบ้านเกี่ยวกับท่านมะระโหมที่เล่ากันไว้มีดังต่อไปนี้ครับ
ท่านมะระโหมเป็นชาวเมืองตรังกานู
ท่านได้ออกเดินทางจากบ้านและเที่ยวพเนจรเรื่อยมาจนถึงเมืองละงู
ปัจจุบันเมืองละงูอยู่ในจังหวัดสตูล นะครับ
ท่านมะระโหมได้ข่าวมาว่าที่เมืองละงูแห่งนี้มีผู้รู้ทางวิชาอาคมแก่กล้า
เป็นที่เกรงขามแก่ชาวบ้านทั่วไป มีชื่อว่า “ท่านโต๊ะงู”
ท่านมะระโหมจึงให้ชาวบ้านช่วยพาไปหาท่านโต๊ะงูท่านนั้น
แต่ชาวบ้านต่างเกรงกลัวท่านโต๊ะงู ไม่กล้าพาไป ได้แต่ชี้บ้านให้เห็นเท่านั้น
เมื่อท่านมะระโหมเข้าไปหาท่านโต๊ะงู
ท่านโต๊ะงูไม่ถูกชะตา คิดจะฆ่าท่านมะระโหม แต่ท่านมะระโหมได้ขอผลัดไปเป็นวันรุ่งขึ้น
ทำไมต้องผลัดวันไปเป็นวันรุ่งขึ้น
ทั้งนี้เพื่อให้ท่านโต๊ะงูได้ประกาศให้ชาวบ้านทราบเรื่อง
จะได้มาคอยชมการฆ่าในครั้งนี้
พอถึงตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น
ชาวบ้านต่างพากันมาที่บ้านของท่านโต๊ะงูเพื่อดูเหตุการณ์ที่น่ากลัวนี้
ท่านโต๊ะงูพยายามฆ่าท่านมะระโหมโดยกระโดดเข้าไปแทงท่านมะระโหมถึง
๓ ครั้ง แต่ไม่สามารถแทงถึงตัวท่านมะระโหมได้
ในที่สุดท่านโต๊ะงูยอมแพ้
และขอสมัครเป็นศิษย์ของท่านมะระโหม
เรื่องราวของท่านมะระโหมยังเกี่ยวข้องกับกรุงสุโขทัยอีกด้วยนะครับ
ต่อมากรุงสุโขทัยได้ประกาศหาคนดีมีฝีมือไปช่วยราชการศึก
ท่านมะระโหมได้เดินทางไปกรุงสุโขทัยเพื่ออาสาปราบศึก
เหตุการณ์สำคัญคือ
ท่านมะระโหมสามารถตัดศีรษะแม่ทัพข้าศึกได้ ท่านมีความดีความชอบมาก
และได้รับราชการอยู่ที่กรุงสุโขทัย
แต่คำกล่าวที่ว่า
จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย ยังคงดำรงอยู่เสมอ นะครับ
พวกขุนนางในเมืองสุโขทัยต่างพากันอิจฉาและกลัวว่าท่านมะระโหมจะเป็นกบฏ
จึงคิดจะกำจัดท่าน
แน่นอน
ท่านมะระโหมทราบเรื่องก่อน จึงหนีกลับเมืองพัทลุง
ท่านเดินทางกลับเมืองพัทลุงอย่างไรครับ
ตำนานเล่าว่า
ท่านมะระโหมนั่งมาในกระทะใบบัวขนาดใหญ่ ท่านใช้ไม้ไผ่เป็นไม้ถ่อ
ท่านมะระโหมถ่อกระทะใบบัวมาจนถึงคลองชะรัด
ท่านได้ปักไม้ถ่อโดยเอาปลายลงไว้ริมคลองชะรัด ต่อมาไม้ถ่อได้งอเป็นกอไผ่
และยังคงมีอยู่จนถึงทุกวันนี้
ต่อมาท่านมะระโหมได้เสียชีวิตที่ชะรัด
มีการปลูกศาลาคร่อมศพของท่านไว้ ชาวบ้านเรียกว่า “ศพทวดโหม” ณ สุสานสุลต่านฟารีซี
ปัจจุบันคือมัสยิดบ้านชะรัดเหนือ นะครับ
นี้คือตำนานมุขปาฐะที่เล่าต่อกันมาของท่านมะระโหมนะครับ


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น