https://sites.google.com/site/kingofth/phra-rach-prawati-phra-mha-ksatriy-mharach-thiy/
มินามีเรื่องเล่า การรู้เท่าทันโลกของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๔
จากบันทึกของท่านกราฟ
ออยเลนบูร์ก (Graf Elenburg) เอกอัครราชทูตปรัสเซียที่ได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เมื่อปี ค.ศ. ๑๘๖๒ (พ.ศ. ๒๔๐๕) ทำให้พวกเราได้รับรู้ถึงพระอัจริยภาพของพระบาทสมเด็จพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เป็นอย่างดี
ผมขอนำข้อเขียนของท่านเอกอัครราชทูตกราฟ
มาเผยแพร่ครับ
“สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระทัยแสวงหาความรู้และศึกษาประสบการณ์ที่ผ่านมาเป็นการเตรียมพระองค์ตลอดเวลา
ระหว่างเวลา ๒๖ ปีที่ทรงครองสมณเพศอยู่นั้น ได้ทรงศึกษาภาษาสันสกฤต ภาษาบาลี
ภาษาประเทศเมืองขึ้นเพื่อนบ้าน ตลอดจนภาษาละตินและภาษาอังกฤษ
ทรงหาความรู้ด้านดาราศาสตร์และทางด้านฟิสิกส์ และทั้งยังสนพระทัยศึกษาเรื่องศาสนาและปรัชญาทุกแขนงอย่างพากเพียรเท่าที่ความรู้ทางภาษาจะอำนวยให้
อันดับแรก
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแจกนามบัตรใส่ซองบอบบางให้แขกทุกคน บนนามยัตรมีพระนามอ่านได้ว่า
สมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎ ด้านหลังมีลายพระหัตถ์เขียนไว้ว่า “On
the 3877 th day of reign, being the 24 th December 1881.”
นอกจากนี้ท่านเอกอัครราชทูตกราฟ
ได้บรรยายไว้ว่าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีความรู้เรื่องประวัติศาสตร์และมีแนวความเห็นส่วนพระองค์ที่สุขุมเกี่ยวกับการติดต่อคมนาคมในโลกอนาคต
ทรงกล่าวว่า
“ในชั้นแรกก็ส่งเรือออกสำรวจดินแดนในซีกโลกที่ตนยังไม่รู้จักก่อน
จากนั้นก็มีเรืออื่น ๆ ติดตามออกมาทำการค้าขาย
แล้วพวกพ่อค้าก็ตั้งรกรากอยู่ที่นั่นเลย ผลก็คือถ้าไม่ถูกชาวพื้นเมืองใช้กำลังต่อสู้
ก็พยายามเข้าข่มเหงเป็นนายคนพื้นเมือง พูดสั้น ๆ
ก็คือการวางตัวผิดและความไม่เข้าใจซึ่งกันและกันทำให้ทั้งสองฝ่ายทำสงครามกัน
คนต่างประเทศจะค่อย ๆ ขยายอำนาจของตนในดินแดนใหม่ ๆ มากขึ้น ๆ
จนเข้าครองอาณาจักรทั้งหมดในที่สุด
เวลานี้แทบจะไม่มีประเทศเหลือให้ล่าเอาเป็นเมืองขึ้นอีกแล้ว จากจากดินแดนทางเกาะทะเลใต้
ประเทศอาเซียล้วนตกอยู่ในสภาพเสียงเปรียบเพราะชาวต่างประเทศไม่นำพาที่จะยึดหลักสิทธิมนุษยชนกับคนแถบนี้ดังเช่นที่ปฏิบัติกันในยุโรป
อย่างไรก็ตามเท่าที่สังเกตดูรู้สึกเป็นที่น่ายินดีว่าชาวยุโรปเริ่มเคารพสิทธิมนุษยชนในการติดต่อกับอาเซียมากขึ้นโดยลำดับ”
นับได้ว่าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระอัจริยภาพในด้านเหตุการณ์ต่างประเทศ
ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ศึกษาศาสตร์ต่างๆ อย่างแท้จริง
ข้อมูล
เคลาส เวงค์ และเคลาส โรสเซ็นแบร์ก. (๒๕๒๐). เยอรมันมองไทย. กรุงเทพมหานคร:
สำนักพิมพ์เคล็ดไทย.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น