Chalermkiat Mina

วันจันทร์, พฤศจิกายน 28, 2565

มินามีเรื่องเล่า พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก Thai English French

 

ภาพจาก https://th.wikipedia.org/wiki/


มินามีเรื่องเล่า พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก Thai English French

          วันนี้ขอเล่าเรื่อง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก หรือรัชกาลที่ ๑ แห่งราชวงศ์จักรีนะครับ

พระองค์ทรงพระราชสมภพในวันพุธที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๒๗๙ ในสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศแห่งกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย รัชกาลที่ ๑ ทรงมีพระนามเดิมว่า ทองด้วง หรือด้วง

          รัชกาลที่ ๑ ทรงมีพระอนุชาคู่พระทัย คือ นายบุญมา หรือกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงนาท

ขอเรียงลำดับตำแหน่งของรัชกาลที่ ๑ ดังนี้นะครับ

          สมัยอยุธยาทรงรับราชการเป็นหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรี

          ในสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช รัชกาลที่ ๑ ทรงดำรงตำแหน่งตังต่อไปนี้  พระราชวรินทร์ (เจ้ากรมตำรวจนอกขวา) – พระยาอภัยรณฤทธิ์ - พระยายมราช - เจ้าพระยาจักรี - เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก

          ขณะที่พระองค์ดำรงตำแหน่งเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก และเป็นแม่ทัพไปตีเมืองกัมพูชา ทรงได้ข่าวการจลาจลที่กรุงธนบุรี จึงเสด็จกลับมาปราบการจลาจล

          พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงขึ้นครองราชย์เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๓๒๕ ทรงดำรงสิริราชสมบัติ ๒๘ พรรษา

          พระองค์สวรรคตในวันพฤหัสบดีที่ ๗ กันยายน พ.ศ. ๒๓๕๒ มีพระชนมพรรษา ๗๓ พรรษา ได้มีพิธีถวายพระเพลิงพระศพ ณ พระเมรุมาศท้องสนามหลวง เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๕๔

รายละเอียดเรื่องอื่นๆ จะมีมาเรื่อยๆ นะครับ โปรดติดตามและตามติด

***********

Mina’s Stories: King Rama Ist

Today, I would like to tell you about King Bhuddhayodfa Chulalok or Rama Ist. His name is Thong Duang or Duang.

          He was born on Wednesday 20th March 1736 in the reign of King Borommakot of Ayutthaya.

          King Rama Ist was a close friend of King Taksin. In the time of Ayutthaya, King Rama Ist worked as Luang Yokkabat of Ratchaburi City. Luang Yokkabat is the representative of the king who takes care of the wellbeings of the city.

          During the reign of King Taksin, Luang Yokkabat (Thong Duang, future King Rama Ist) was his excellent general. He received the ranks as follows: Phra Rat Warin, Phraya Aphai Ronnarit, Chao Phraya Yommarat, Chao Phraya Chakri and Somdet Chao Phraya Mahakasatsuk.

          While Chao Phraya Mahakasatsuk led his army to fight with the Cambodian army, he heard that there were riots in Dhonburi. He returned to the capital to stop the riots.

          As King Taksin was not able to rule the kingdom, Chao Phraya Mahakasatsuk ascended to the trone on Monday 10th June, 1782. He is the first king of Chakri Dynasty.

          King Bhuddhayodfa Chulalok had ruled Thailand for 28 years. He passed away on Thursday 7th September 1809, at the age of 73.

          The royal cremation took place on Sunday 5th May, 1811, at the Royal Ground of Sanam Luang.  

*********

Histoire de MINA : Le roi Rama Ier

          Aujourd'hui, je voudrais vous parler du roi Bhuddhayodfa Chulalok ou Rama Ier. Son nom est Thong Duang ou Duang.

          Le roi Rama Ier est né le mercredi 20 mars 1736 sous le règne du roi Borommakot d'Ayutthaya. Après la chute d'Ayutthaya, le roi Rama Ier fut Luang Yokkabat de la ville de Ratchaburi. Luang Yokkabat est le titre de fonctionnaire de la capitale. Sa mission est de garder les bien-êtres des habitants de la ville.

          Après, Le roi Taksin de Dhonburi monta sur le trône, il nomma son ami Duang Phra Rat Warin, chef de la police, à l'âge de 32 ans.

          Phra Rat Warin conduisit l'armée à combattre contre l'armée de Nakhon Ratchasima. Il gagna. Puis, il fut nommé Phraya Anuchit Chan Chai.

          A l’âge de 34 ans, il fut nommé Chao Phraya Yommarat. Plus tard, il conduisit l'armée à s'emparer de la ville cambodgienne et il put s'emparer de la ville. Ainsi, il fut promu Chao Phraya Chaki, à l'âge de 35 ans.

          Choa Phraya Chaki dirigea l'armée à lutter contre l'armée birmane à Chiangmai et dans d’autre villes du nord du royaume. Plus tard, il dirigea l'armée pour s'emparer de la ville de Champassak. Il réussit à s'emparer de la ville. Le roi Taksin le nomma Chao Phraya Maha Kasatsuk. Plus tard, il mena son armée pour s'emparer du royaume de Vientiane.

          Sous le règne du roi Taksin, Luang Yokkabat (Thong Duang, futur roi Rama Ier) était son excellent général. Il reçut les rangs honorifiques suivants : Phra Rat Warin, Phraya Aphai Ronnarit, Chao Phraya Yommarat, Chao Phraya Chakri et Somdet Chao Phraya Mahakasatsuk.

          Alors qu'il mena son armée pour combattre contre l'armée cambodgienne, il apprit qu'il y avait des émeutes à Dhonburi. Il retourna dans la capitale de Dhonburi pour arrêter les émeutes.

          Comme le roi Taksin n'était pas en mesure de gouverner le royaume, Chao Phraya Mahakasatsuk monta sur le trône le lundi 10 juin 1782. Il est le premier roi de la dynastie Chakri.

          Le roi Buddhyodfa Chulalok règna le royaume de Siam pendant 28 ans. Il s'éteignit le jeudi 7 septembre 1809, à l'âge de 73 ans.

          La crémation royale eut lieu le dimanche 5 mai 1811, sur le Pré royal de Sanam Luang.

********


วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 27, 2565

Français : Accord des adjectifs de couleur

 


Accord des adjectifs de couleur

การทำสัมพันธ์ด้านเพศพจน์ของคำคุณศัพท์บอกสี

สวัสดีครับ วันนี้เรามาดูเรื่องคำคุณศัพท์บอกสีในภาษาฝรั่งเศสกัน คำคุณศัพท์บอกสี (les adjectifs de couleur) ในภาษาฝรั่งเศสวางไว้หน้าคำนามหรือหลังคำนามกันหนอ

คำตอบคือหลังคำนาม มีคำใดบ้าง ลองมาดูกัน

          rouge (สีแดง), jaune (สีเหลือง), rose (สีชมพู), noir (สีดำ), brun (สีน้ำตาล), bleu (สีน้ำเงิน), blanc (สีขาว), orange (สีส้ม)

คำคุณศัพท์บอกสีแบ่งเป็นสองประเภท ได้แก่

1.     l’adjectif désignant la couleur simple

2.     l’adjectif désignant la couleur composée

1. l’adjectif désignant la couleur simple เป็นคำคุณศัพท์ที่มีหลักการเหมือนคำคุณศัพท์โดยทั่วไป คือ เป็นคำที่เปลี่ยนรูปได้ (mot variable) หมายความว่า ต้องสัมพันธ์ตามเพศพจน์ของคำนาม ตัวอย่างเช่น

les chaussures noires (ร้องเท้าสีดำ)

les maisons blanches (บ้านสีขาว)

des yeux bleus (ตาสีฟ้า)

une robe bleue (กระโปรงสีน้ำเงิน)

 

หลักการคิดโดยทั่วไป คือ การเปลี่ยนจากเพศชายให้เป็นเพศหญิง เราเติม e เช่น noir เป็น noire, bleu เป็น bleue

ถ้าคำคุณศัพท์เพศชาย ลงท้ายด้วย e อยู่แล้ว เมื่อเป็นเพศหญิงก็ไม่ต้องเติม e เช่น jaune เป็นต้น

แต่คำว่า blanc เราต้องเปลี่ยนเป็น blanche

นอกจากนี้คำว่า brun ออกเสียงว่า เบริง เมื่อเติม e เป็น brune จะออกเสียงว่า บรูน  

 

การทำให้เป็นพหูพจน์

เราเติม s ที่คำคุณศัพท์บอกสี

          un vélo rouge (รถจักรยานสีแดง)

          une voiture rouge (รถยนต์สีแดง)

          des voitures rouges (รถยนต์สีแดง)

          des stylos noirs (ปากกาสีดำ)

          des voitures blanches (รถยนต์สีขาว)

แต่ถ้าไม่มีอะไรแปลกๆ ก็ไม่แปลก แต่

un vélo orange (รถจักรยานสีส้ม)

des rubans orange (ริบบิ้นสีส้ม)

เราจะสังเกตว่า คำคุณศัพท์บอกสี คือ orange (สีส้ม) ไม่ทำสัมพันธ์ด้านเพศพจน์กับคำนาม กลายเป็นคำที่ไม่เปลี่ยนรูป

          ไฉนเป็นเช่นนี้

            เรื่องนี้ ทำให้เราได้รับรู้ว่า ยังมีคำคุณศัพท์บอกสีที่ไม่เปลี่ยนรูปตามเพศและพจน์ของคำนาม

เราถือว่าเป็นพวกคำที่ไม่เปลี่ยนรูป (le mot invariable) คำคุณศัพท์บอกสีพวกนี้คือพวกไหน มีมากไหม มีข้อสังเกตอย่างไร

          คำคุณศัพท์บอกสีที่ไม่เปลี่ยนรูป ได้แก่

๑. คำคุณศัพท์ประสม (l’adjectif désignant la couleur composée) หรือเรียกง่ายๆ ว่า  (les adjectifs composés) ซึ่งจะไม่เปลี่ยนรูป คือ ไม่ทำสัมพันธ์ด้านเพศพจน์ตามคำนาม

ตัวอย่างเช่น คำว่า bleu foncé (สีน้ำเงินเข้ม), bleu roi (สีน้ำเงินสด), bleu marine, bleu horizon, bleu lavande, bleu ardoise ตัวอย่างเช่น  

une cravate bleu foncé (เน็คไทสีน้ำเงินเข้ม),

des uniformes bleu roi (เครื่องแบบสีน้ำเงินสด),

          des manteaux bleu-vert (เสื้อคลุมสีน้ำเงินแกมเขียว)
         
นอกจากนี้ยังมีคำคุณศัพท์บอกสีที่นำมาจากคำนาม หรือพูดง่ายๆ ว่า นำคำนามมาใช้เป็นคำคุณศัพท์บอกสี ซึ่งจะไม่ทำสัมพันธ์ด้านเพศพจน์กับคำนาม  

          ตัวอย่างเช่น สีส้มเป็นสีที่นำมาจากส้ม จึงไม่เปลี่ยนรูป

          des pantalons orange (กางเกงขายาวสีส้ม)

          des rubans orange (ริบบิ้นสีส้ม) (มาจาก de la coulour de l’orange)

des robes marron (กระโปรงสีผลเกาลัด) (มาจาก de la couleur du marron)

          ยกเว้น ยังมีคำคุณศัพท์บอกสีที่นำมาจากคำนาม และเป็นที่ยอมรับว่าเป็นคุณศัพท์บอกสีแล้ว

          ดังนั้นคำเหล่านี้ถือเป็นคำที่เปลี่ยนแปลงรูปได้ (les mots variables) ต้องทำสัมพันธ์ด้านเพศและพจน์ของคำนาม

          ส่วนมากเป็นคำคุณศัพท์ที่เราไม่ค่อยรู้จักกัน มีที่รู้จักก็คือ rose (สีชมพู คำนามคือดอกกุหลาบ)

          คำนามเหล่านี้ที่แบ่งภาคเป็นคุณศัพท์บอกสีและทำสัมพันธ์กับเพศพจน์ของคำนาม ได้แก่

          rose (สีชมพู)

écarlate (สีแดงเข้ม)

fauve (สีน้ำตาลเข้มหรือสีเหลืองแกมแดง)

incarnat (สีกุหลาบ, สีชมพู)

mauve (สีม่วงอ่อน)

pourpre (สีม่วง, สีแดงเข้ม)

roux (สีเหลืองแกมแดง, สีแดงอย่างสนิม)

ตัวอย่างเช่น

des cheveux roux (ผมสีแดงแบบสีสนิม)

la lune rousse (พระจันทร์สีแดงเข้ม พระจันทร์เดือนเมษายน)

des robes mauves (กระโปรงสีม่วงอ่อน)

des chaussures roses (รองเท้าสีชมพู)

avoir les lèvres incarnates (มีริมฝีปากสีชมพูเรื่อ)

          ตัวอย่างคำว่า mauve เป็นคำนามเพศหญิง หมายถึง พืชที่มีดอกสีชมพูหรือสีม่วงอ่อน เป็นต้น   
         
มีคำถามว่าทำไม les adjectifs composés จึงไม่เปลี่ยนรูป หนังสือ Le bon usage ของ Maurice Grevisse หน้าที่ 413 เขาบอกว่า คำคุณศัพท์บอกสีที่เป็นคำคุณศัพท์ผสมนั้น เกิดจากคำคุณศัพท์บอกสีคำแรก ขยายด้วยคำคุณศัพท์อีกคำหนึ่ง หรือตามด้วยคำนามอีกคำหนึ่ง ให้ถือว่าทั้งสองคำไม่เปลี่ยนรูป (invariable) ทั้งนี้เพราะว่า ให้ถือว่าคำคุณศัพท์คำแรกเป็นคำนาม (Le premier adjectif est pris substantivement.) และมีการลบคำว่า d’un ออกไป (l’ellipse de « d’un ») ตัวอย่างเช่น

          des yeux bleu clair (= d’un bleu clair)

          des gants jaune paille (= d’un jaune paille)  

          des robes bleu de ciel (= d’un bleu de ciel)   

          des tissus vert pomme (= d’un vert pomme) 

          des tenus bleu horizon (=d’un bleu horizon)

 

เป็นอย่างไรครับ คุณศัพท์บอกสี มีเสน่ห์มากไหม De quelle couleur est votre maison ? (บ้านของคุณสีอะไร)

**************


มินามีเรื่องเล่า ตำนานเรื่องพญานาคกับทุ่งกุลาร้องไห้ Thai-French

 

มินามีเรื่องเล่า ตำนานเรื่องพญานาคกับทุ่งกุลาร้องไห้ Thai-French

สวัสดีครับ วันนี้ผมมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับชื่อทุ่งกุลาร้องไห้นะครับ

เรื่องมีอยู่ว่า มีชนเผ่ากุลา ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยมาจากเมืองเมาะตะมะ ประเทศมอญ ชนกลุ่มนี้มีอาชีพค้าขายระหว่างเมือง

ชาวกุลาได้เดินทางผ่านทุ่งแห่งนี้ ใช้เวลาเดินทางกลายวัน ไม่พบผู้คน ไม่พบหมู่บ้าน ไม่พบแหล่งน้ำ ไม่มีต้นไม้ให้ร่มเงา มีแต่หญ้าขึ้นสูงเต็มไปหมด

กลางวันมีแดดร้อนมาก พื้นดินก็มีแต่ดินปนทราย พวกเขาทั้งหิวและเหนื่อย ร่างกายขาดน้ำ จึงนอนร้องไห้ จนมีชนเผ่าพื้นเมืองผ่านมาพบ จึงได้เข้าช่วยเหลือนำไปพยาบาลในหมู่บ้าน

พวกชาวบ้านเห็นอาการนอนร้องไห้รอความช่วยเหลือของชนเผ่ากุลา จึงเรียกบริเวณแห่งนี้ว่า ทุ่งกุลาร้องไห้

          ในจังหวัดร้อยเอ็ดมีนิทานเรื่องความเป็นมาของทุ่งกุลาร้องไห้ที่เล่าสู่กันฟังว่า เดิมทีทุ่งกุลาเคยเป็นทะเลสาบและพระยานาคทำให้น้ำหายไป เรามาฟังเนื้อเรื่องกันครับ

ในกาลครั้งหนึ่งเจ้าเมืองริมทะเลสาบองค์หนึ่งมีพระธิดาสององค์ ทรงรักพระธิดาทั้งสองมาก

แต่พระธิดาทั้งสองพระองค์ต่างหลงรักชายหนุ่มคนเดียวกัน ชายหนุ่มคนนี้ชื่อทุกขตะ

ทุกขตะมีฐานะยากจน อาศัยอยู่ที่บ้านซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลสาบ แต่เขาเป็นคนมีหน้าตาดี

พระธิดาทั้งสองกลัวว่าพระบิดาจะไม่ทรงยินยอมในเรื่องนี้ จึงได้ขอร้องให้ทุกขตะช่วยพาหนีโดยนั่งเรือออกสู่ท้องทะเล 

ต่อมาพระราชบิดาทรงทราบเรื่อง จึงให้ทหารออกเรือเที่ยวตามหาทั้งสามคน

ทหารกลับมาทูลว่าไม่พบคนทั้งสาม

พระราชาเป็นเพื่อนรักกับพญานาค จึงขอร้องให้พญานาคช่วยค้นหาพระธิดาทั้งสอง พญานาคได้สูบเอาน้ำในทะเลสาบออกจนแห้งขอดเพื่อจะได้ค้นหาพระธิดากับชายหนุ่ม

แต่เมื่อสูบน้ำออกหมดแล้วก็ค้นหาไม่พบ ไม่ทราบว่าคนทั้งสามไปอยู่ที่ใด ทะเลสาบจึงแห้งขอดตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทำให้ทุ่งกุลาแห้ง ไม่มีน้ำ บรรดาปู ปลาในทะเลสาบต่างตกเป็นอาหารของนกอินทรีย์ จนมีขี้นกอินทรีย์ตกค้างให้เราได้พบเห็นมาจนทุกวันนี้

          สรุปคือ ยังตามหาคนทั้งสามไม่เจอ มีแต่ทุ่งกุลาแห้งแล้ง

*******

Histoires de MINA : Le roi Naga et le vaste champ Kula Ronghai

Kula Ronghai est le nom d’un vaste champ couvrant les terrrains de 5 provinces : Roi-Et, Kalasin, Mahasarakham, Surin et Buriram. La légende expliquant l’origine du nom de Thung Kula Ronghai mentionne une tribu de Kula, ethnie minoritaire habitant dans la ville de Mortama, ville célèbre du royaume de Mon.

Les membres de cette tribu erraient dans les villes pour faire du commerce. Une fois, ils traversèrent un vaste champ. Il leur fallut des jours pour sortir de ce champ. Le temps passait et ils ne rencontrèrent personne, et ne trouvèrent aucune source pour se désaltérer. Ils n’avaient aucun arbre sous lequel s’abriter. Il n’y avait que de hautes herbes.  Le terrain était sablonneux. Le soleil brillait horriblement sur la terre. Il faisait tellement chaud que leurs corps eurent besoin d’eau. Ayant faim et étant épuisés, ils se couchèrent par terre et pleurèrent. Heureusement, un groupe d’indigène vint à leur rencontre, les emmena au village pour les nourrir et les laisser se reposer.

Comme les indigènes reconnurent la scène des Kula qui pleurent, ils nommèrent le champ à partir de ce moment-là « Tung Kula Ronghai », ce qui signifie « Le champ des Kulas qui pleurent. »

          Une légende de Tung Kula Ronghai racontée par des habitants de la province de Roi-Et explique qu’autrefois Tung Kula était un lac et que la disparition d’eau dans le champ fut causée par le Naga. L’histoire est la suivante :

Il était une fois le roi d’une ville située près d’un lac. Il eut deux belles filles. Les deux princesses étaient trop aimées par leur père. Malheureusement, les deux princesses tombèrent amoureuses du même homme qui s’appelait « Tukkata ». C’était un homme pauvre qui vivait tout seul près du lac mais il était beau.

Craignant que le roi ne soit pas d’accord avec leur amour, les deux princesses demandèrent à Tukkata de les emmener vivre ailleurs. Ils prirent un bateau pour aller jusqu’à la mer. Ayant su que ses deux filles étaient parties avec un homme sans lui en demander l’autorisation, le roi fut fâché. Il ordonna aux soldats de partir en bateau pour les chercher.

Les soldats revinrent et l’informèrent qu’ils ne les avaient pas trouvées.

Le roi était ami intime du roi Naga, serpent mythique. Il demanda à son ami Naga de l’aider à trouver ses filles.

Naga but l’eau du lac jusqu’à ce qu’il n’en reste plus une seule goutte. Mais il ne trouva pas les fugitifs.

C’est pourquoi à partir de ce moment-là le lac devint sec. Les poissons et les crabes habitant dans le lac firent le repas des aigles. C’est la raison pour laquelle il y a toujours maintenant des excréments d’aigles dans le champ Tung Kula Ronghai.  

          **************************

วันศุกร์, พฤศจิกายน 25, 2565

มินามีเรื่องเล่า ตำนานเขาสมอคอน ลพบุรี

 มินามีเรื่องเล่า ตำนานเขาสมอคอน ลพบุรี

          เขาสมอคอนตั้งอยู่ในเขตท้องที่อำเภอท่าวุ้ง ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองลพบุรี

เขาสมอคอนเป็นภูเขาเตี้ยๆ มีหลายลูก ไม่ติดกันเป็นเทือกเดียว และตั้งอยู่กลางทุ่งอันเป็นที่ราบลุ่ม

ในฤดูน้ำหลากจะกลายเป็นเกาะกลางน้ำ การเดินทางไปมาสะดวกกว่าฤดูแล้งเพราะมีเรือไปถึงเชิงเขา

ชาวลพบุรีชอบไปพักผ่อนในวันหยุด เพราะที่เขาสมอคอนนั้นมีถ้ำหลายถ้ำ เช่น ถ้ำช้างเผือก ถ้ำตะโก ถ้ำเขาสมอคอน มีวัดสองสามวัด

          บริเวณเขาสมอคอนเป็นพื้นที่ที่มีลิงป่าอาศัยอยู่มากมาย

 ตำนานเรื่องเขาสมอคอน

          เนื่องจากเขาสมอคอนมีหลายลูก แต่ไปอยู่กลางที่ราบลุ่ม จึงมีตำนานที่เล่าต่อๆ กันมาซึ่งมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับรามเกียรติ์ แต่เล่าแตกต่างกันเป็นสองเรื่องครับ

          ตำนานแรกเล่าว่า ครั้งหนึ่งพระรามทรงกริ้วทศกัณฐ์มาก พระองค์ทรงขว้างจักรจากทะเลชุบศรหวังจะให้ทศกัณฐ์แหลกราน แต่เผอิญจักรของพระรามได้เฉี่ยวยอดเขาสูงลูกหนึ่ง เศษหินที่ถูกจักรหมุนไปกระทบได้กระเด็นไปตกหล่นเป็นหมู่เขาสมอคอน ส่วนยอดเขาที่ถูกเฉี่ยวแหว่งไปนั้นชาวเมืองเรียกว่า “เขาช่องลพ”

ปัจจุบันเขาช่องลพอยู่ในตำบลโคกกระเทียม อำเภอเมืองจังหวัดลพบุรี

ส่วนตำนานอีกเรื่องหนึ่งกล่าวว่า เมื่อตอนที่พระลักษณ์ต้องออกโมกขศักดิ์ของกุมภกรรณ ถ้าไม่มียามารักษาก่อนพระอาทิตย์ขึ้น พระลักษณ์จะทิวงคต

          หนุมานซึ่งเป็นทหารเอกของพระรามจึงได้ขันอาสาออกไปหายาวิเศษที่มีชื่อว่า “ต้นสังกรณีตรีชวา” ที่เขาสรรพยา (เขานี้ปัจจุบันอยู่ที่จังหวัดชัยนาท) เพื่อนำยามาฝนทาที่หอกที่ปักอยู่ หอกจึงจะหลุดออกมา

หนุมานไปหาต้นสังกรณีดีชวาไม่พบเพราะเป็นเวลามืด เกรงว่าจะรุ่งสางเสียก่อน

หนุมานทำอย่างไรดี

          ว่าแล้วหนุมานจึงได้คอนเอาภูเขามาทั้งลูก

          เผอิญหนุมานคอนภูเขาผ่านมาทางเมืองลพบุรี ซึ่งไฟกำลังลุกไหม้ตั้งแต่ครั้งที่หนุมานเอาหางกวาดเมือง ขณะที่ลอยอยู่เหนือเมืองลพบุรี แสงสว่างจากไฟทำทำให้หนุมานมองเห็นต้นสังกรณีตรีชวาที่อยู่บนเขาซึ่งหนุมานคอนมา

          หนุมานจึงถอนเอาแต่ต้นสังกรณีตรีชวาไปและทิ้งภูเขาที่คอนมาลงกลางทุ่งทะเลเพลิง

ภูเขาที่ทิ้งลงมาได้ถูกไฟเผากลายเป็นหินสีขาว และมีชื่อเรียกว่า “เขาสมอคอน” ผ่านมาเมืองลพบุรี แวะเที่ยวเขาสมอคอนกันนะครับ

มินามีเรื่องเล่า กรมหลวงพิพิธมนตรี พระพันวัสสาน้อย Thai-English-French

  มินามีเรื่องเล่า กรมหลวงพิพิธมนตรี พระพันวัสสาน้อย Thai-English-French กรมหลวงพิพิธมนตรี (พระพันวัสสาน้อย) เป็นพระอัครมเหสีน้อยของสมเด็จพ...